การเงินเศรษฐกิจ

สรุปทุกอย่าง เงินดิจิทัล 10,000 บาท เงื่อนไข วิธีลงทะเบียน ใช้ได้วันไหน

เปิดขั้นตอน ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เตรียมยืนยันตัวตนผ่านระบบแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง พร้อมแจ้งข้อกำหนดเงื่อนไขรับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรี ยืนยัน แจกเงินประชาชนคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 7 หมื่น เงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5 แสน

ทีมข่าวเศรษฐกิจ Thaiger ได้รวบรวมข้อมูลสรุปทั้งหมดมาให้ ไทมไลน์คาดว่าจะเริ่มต้นใช้ได้ ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-มิถุนายน 2567 และแจกเงินให้ครบภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 สามารถเช็กรายละเอียดทั้งหมดก่อนรับเงินได้ที่นี่

วิธีลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 ผ่านแอปเป๋าตัง

สำหรับประชาชนทั่วไปและร้านค้าที่ลงทะเบียน จะต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท ทั้งนี้ผู้ที่เคยลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว จะไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ เนื่องจากมีประชาชนลงทะเบียนอยู่แล้ว 40 ล้านคน และมีร้านค้าที่คุ้นเคยอยู่แล้วกว่า 1.8 ล้านร้านค้า (จากโครงการก่อนหน้าของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)

ทั้งนี้ ระบบเป๋าตังมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว ซึ่งจะลดระยะเวลา ประหยัดงบประมาณ และลดความซ้ำซ้อนในการสร้างและดูแลรักษาระบบ กระทรวงการคลังเอง ก็มีความคุ้นเคยในการกำกับดูแลและบริหารจัดการ ป้องกันการทุจริตต่าง ๆ โดยเราจะพัฒนาต่อยอดระบบเป๋าตัง ให้สามารถทำงานโดยมี Blockchain อยู่ด้านหลังเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งระบบ Blockchain จะทำให้รัฐป้องกันการทุจริตได้นั่นเอง

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านเป๋าตัง

สรุปไทม์ไลน์ โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มใช้ได้วันไหน

  • มกราคม 2567 – โครงการ E-refund
  • พฤษภาคม 2567 – เงินเข้าแอปเป๋าตังผู้มีสิทธิ
  • พฤศจิกายน 2567 – ต้องใช้เงินครั้งแรก
  • เมษายน 2570 – สิ้นสุดโครงการ

ประกาศปฏิทิน โครงการ Digital Wallet จะใช้ระยะเวลาในการตีความโดยกฤษฏีกา และกระบวนการกฎหมายช่วงปลายปี 2566 จากนั้นก็จะเข้าสู่สภา ช่วงต้นปีหน้า 2567 จัดเตรียมงบประมาณ และเปิดให้ประชาชนได้ใช้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567

พร้อมทั้งมีโครงการ e-Refund ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้คนไทยสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้ใบกำกับภาษี มาประกอบการยื่นภาษีบุคคล และรัฐจะคืนเงินภาษีให้ เพราะฉะนั้น คนที่ไม่ได้รับสิทธิ Digital Wallet และโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถจะสามารถดำเนินการได้เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม นายกฯ เศรษา ทวีสิน ย้ำกับสื่อมวลชนว่า ทุกอย่างที่ผมแถลงไปวันนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย และได้รับมติของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทำงานอย่างรัดกุม ก่อนจะเข้า ครม. เพื่อให้ได้รับอนุมัติอย่างชัดเจนต่อไป และคาดหวังว่านโยบาย Digital Wallet นี้ คือ นโยบายที่ประชาชนเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านสิทธิการใช้จ่าย 10,000 บาท ผมขอฝากนโยบายนี้ ให้ประชาชนทุกคน ร่วมกันใช้สิทธิด้วยความภาคภูมิใจ เพราะท่านเป็นผู้ร่วมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ให้กับประเทศชาติของเรา

1. ระยะเวลาใช้จ่าย 6 เดือน ใช้ผ่านแอปเป๋าตัง ภายในอำเภอที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน

2. เริ่มใช้เงินดิจิทัลในเดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2570 และต้องใช้ครั้งแรกภายใน 6เดือน หากไม่ใช้ภายใน 6 เดือน เงินจะกลับเข้าสู่ระบบ

3. ใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค-บริโภคเท่านั้น

สรุปวิธีลงทะเบียน-เงื่อนไข รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

เงื่อนไขเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 30 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงข่าวอธิบายสรุปเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท วงเงิน 5 แสนล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 66 ระบุเกณฑ์เงื่อนไขรับสิทธิ์เบื้อง 3 ข้อ ต้นดังนี้

1. รัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่าย 1 หมื่นบาท ให้กับคนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท

2. สำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาท แต่เงินฝากน้อยกว่า 5 แสน และผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาท แต่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิเงินดิจิทัลในครั้งนี้ แต่จะได้ใช้สิทธิโครงการ E-refund แทน

3. รัฐบาลจะให้สิทธิประชาชนใช้จ่ายภายในระยะ 6 เดือน หลังจากที่โครงการเริ่ม และขยายพื้นที่การใช้จ่ายครอบคลุมถึงระดับอำเภอ ตามที่ได้รับฟังความคิดเห็นมา พร้อมกับใช้เงินเพิ่มขีดความสามารถ ภายใต้งบ 1 แสนล้านบาท ส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่

หมายความว่า เมื่อได้เงินมาแล้วเดือนพฤษภาคม 2567 จะต้องใช้เงินครั้งแรกภายในพฤศจิกายน ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกดึงกลับเข้าระบบ เมื่อใช้จ่ายแล้วจะต้องใช้ให้หมดภายใน เดือนเมษายน 2570

ทั้งนี้ รายละเอียดเรื่องเกณฑ์การรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท มีการปรับเปลี่ยนแตกต่างไปจากเดิมที่เคยระบุเอาไว้ 3 ประการว่า 1. ผู้เข้าเกณฑ์จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีไม่มากกว่า 500,000 บาท 2. ตัดสิทธิ์ผู้ที่มีรายได้เกิน 2.5 หมื่นบาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีมากกว่า 1 แสนบาท และ 3. ได้เฉพาะผู้ที่มีบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สรุปว่าผู้ที่มีรายได้เกิน 7 หมื่นบาทต่อเดือน และมีเงินฝากสูงกว่า 5 แสนบาท จะถูกตัดสิทธิ์รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

อ้างอิง : ไทยคู่ฟ้า, ทำเนียบรัฐบาล

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button