การแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ประจำฤดูกาล 2019/20 หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงสนามดวลแข้งกับ ฟลาเมงโก้ ทีมดังจากประเทศบราซิล ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์
ลิเวอร์พูล ที่แพ้มาตลอด 3 ครั้งที่เคยเข้ารอบชิง เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้รับข่าวดีเมื่อ เวอร์กิล ฟาน ไดค์จ หายป่วยกลับมาคุมแดนหลัง ส่วนตำแหน่งอื่นแข็งแกร่ง นาบี เกอิต้า ลงตัวจริงต่อไปโดย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็มาช่วยแนวรุก ส่วนสามประสานแดนหน้ามากันครบทั้ง ฟิร์มิโน่, มาเน่ และ ซาลาห์
ด้าน ฟลาเมงโก้ ก็จัดชุดใหญ่ลงสนามเช่นกันแนวหน้ามีตัวอันตรายอย่าง เอแวร์ตอน และ กาบิโกล ที่ค้ำหอก
🔴 #ClubWC final team news 🔴
How we line-up this evening 👊
— Liverpool FC (@LFC) December 21, 2019
นาทีที่ 1 ลิเวอร์พูล มีโอกาสก่อนเลยเมื่อ ฟิร์มิโน่ ได้บอลโยนยาวมาจากกลางสนามแต่โดนพัวพันด้านหลังทำให้จังหวะยิงซัดข้ามคานไปเฉยซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะทำได้ดีกว่านี้
นาทีที่ 5 โอกาลเหน่ง ๆ อีกหนของหงส์แดง ซาลาห์ ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วยิงไม่ได้เลยไหลกลับมาตั้งให้ เกอิต้า มีเวลาเป็นวันแต่ดันซัดข้ามคานไปอีก
นาทีที่ 20 ลิเวอร์พูล ครองบอลกันไม่ค่อยติดเพราะ ฟลาเมงโก้ เล่นเพรสอย่างหนักตั้งแต่กลางสนามทำให้จ่ายบอลขาด ๆ เกิน ๆ ด้านทีมแซมบ้าพยายามหาโอกาสสวนกลับก็ยังไม่ได้ส่องประตูอะไร
นาทีที่ 32 ฟลาเมงโก้ โวยจะเอาจุดโทษเหมือนกันเป็นจังหวะครอสบอลจากริมเส้นด้านขวาไปทางเสาไกล เอ็นริเก้ โฉบมาโขกเหนือ เทรนท์ แล้วบอลไปโดนมือของโกเมซ ทว่ากรรมการมองว่าแขนไม่ได้กางออกมาเลยไม่ได้เป่าว่าเป็นการฟาวล์
นาทีที่ 45 ก่อนหมดครึ่งแรก มาเน่ หัวร้อนโดนใบเหลืองเลย เป็นจังหวะที่เขาพยายามจะเล่นเกมสวนกลับแล้วโดน ราฟินญ่า ดึงเอาไว้จนวิ่งต่อไม่ได้เลยหันไปเหวี่ยงคู่กรณีล้มลงกรรมการหันมาเห็นพอดีเลยโดนจดชื่อ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าเซ็งเพราะตัวเองน่าจะได้ฟาวล์ก่อนเห็น ๆ
Level at the break in the #ClubWC final.
— Liverpool FC (@LFC) December 21, 2019
นาทีที่ 47 ไม่น่าเชื่อว่า ฟิร์มิโน่ พลาดอีกแล้ว เฮนเดอร์สัน จ่ายไปให้ดาวยิงแซมบ้าเกี่ยวหนีกองหลังอย่างสวยก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายบอลดันไปชนเสากระดอนออกไปอีก
นาทีที่ 69 ฟลาเมงโก้ เติมเกมบุกกันได้ดีทีเดียวในช่วงนี้ เอ็นริเก้ ลากขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลาง กาบิโกล ตีลังกายิงบอลเข้ากรอบแล้วแต่ก็เบาเกินไป อลิสซอน รับสบาย
นาทีที่ 73 เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อ แชมเบอร์เลน โดนกระแทกจากด้านหลังแล้วร่วงลงไปนอนร้องโอดโอยกุมไปที่ขาขวาแล้วสุดท้ายต้องออกจากสนามไปแล้วเปลี่ยนเอา อดัม ลัลลาน่า ลงมาแทน
นาทีที่ 90 หงส์แดง มาได้จุดโทษเป็นจังหวะ ฟิร์มิโน่ ไหลให้ มาเน่ หลุดเดี่ยวแล้วจังหวะจะยิงไปโดน ราฟินญ่า พุ่งเข้าเสียบจากด้านหลังพอดีบอลปลิ้นออกไปแล้วกรรมการเป่าท่ามกลางการประท้วงของ ฟลาเมงโก้ กรรมการวิ่งไปดู VAR ก่อนกลับคำตัดสินไม่ให้อะไรเลยแบบงง ๆ ก่อนหมดเวลา 90 นาที 0-0 ต้องต่อเวลาเพิ่ม
It ends level after 90 minutes. We head to extra-time…#ClubWC
— Liverpool FC (@LFC) December 21, 2019
GOAL !!! นาทีที่ 99 โอกาสยิงครั้งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษ หงส์แดง มาได้ประตูขึ้นนำเริ่มจากจังหวะที่ เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลไปให้ มาเน่ได้บอลลากเข้ากรอบเขตโทษแต่โดนตามมายิงไม่ได้เลยไหลมาใฟ้ ฟิร์มิโน่ ที่เติมมาพอดีเกี่ยวหนี ราฟินญ่า และ อัลเวส ก่อนยิงประตูโล่ง ๆ เข้าไป 1-0
We lead at half-time of extra-time, after Firmino's strike. #ClubWC
— Liverpool FC (@LFC) December 21, 2019
จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน หลังจากอกหักมา 3 หน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ประกาศศักดิ์ดาคว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นหนแรกได้สำเร็จส่วน ฟลาเมงโก้ ต้องเป็นฝ่ายอกหักไปแทนในปีนี้
ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล 1-0 ฟลาเมงโก้
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ฟลาเมงโก้ : ดีเอโก้ อัลเวส, ราฟินญ่า, ปาโบล มารี, โรดรีโก้ ไคโย่, ฟิลิเป้ ลุยส์, แกร์ซอน, วิลเลี่ยน อาเรา, เอแวร์ตอน, จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า, บรูโน่ เอ็นรีเก้ , กาเบรียล บาร์โบซ่า
