แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เพิ่งจะกลายร่างเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขายังกลายเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกอีกด้วย
วันนี้ The Thaiger พาไปทำความรู้จักกับเซ็นเตอร์แบ็คจอมแกร่งกับบทสัมภาษณ์แรกของเขาในฐานะพลพรรคผีแดงอย่างเต็มรูปแบบ เจ้าตัวยังเปิดเผยความฝันที่จะทำประตูต่อหน้าแฟนบอลฮาร์ดคอร์ใน ‘สเตรทฟอร์ด เอนด์’ อันลือลั่น และความตื่นเต้นที่ได้เป็นหนึ่งในยูไนเต็ดรุ่นใหม่ จะเป็นยังไงไปอ่านได้เลย
แฮร์รี่ วันนี้เมื่อปีที่แล้ว คุณกำลังเตรียมตัวลงเตะนัดเปิดสนามกับ ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในฐานะผู้เล่นของเลสเตอร์ แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นบ้านคุณไปเสียแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?
มันเหลือเชื่อมากๆ ครับ ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้เข้าร่วมกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ผมมองไปข้างหน้า รอที่จะลงเล่นไม่ไหวแล้ว เหมือนที่คุณบอกเลย เกมแรกของฤดูกาลที่แล้วมันเกิดขึ้นที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด การมาเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดคือแมทช์ที่ผมเฝ้ารอเสมอมาตั้งแต่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้มันคือบ้านหลังใหม่ของผมแล้ว
ช่วงปรีซีซั่นเป็นอย่างไรบ้าง? แฟนๆ คาดหวังจะเห็นคุณลงสนามในเกมแรกกับเชลซีนะครับ….
ครับ ผมพยายามมุ่งมั่นกับมันเป็นอย่างมาก ทำงานอย่างหนัก ซ้อมทุกมื้อ ผมลงสนามทุกนัดให้กับเลสเตอร์ในฤดูกาลที่แล้ว สภาพความฟิตของผมก็ดีตามไปด้วย มันสำคัญมากสำหรับผมที่จะได้ลงเล่น (เกมแรก) เพราะผมได้โอกาสย้ายทีมมาตามที่ต้องการแล้ว ผมต้องฟิต และพร้อมที่จะลงสนามตั้งแต่เกมแรก ผมรู้สึกว่าพร้อมมากๆ แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกุนซือดีกว่าครับ
คุณเข้าใจเป้าหมายของผู้จัดการทีมว่าอย่างไร ไม่ใช่แค่ในซีซั่นนี้ แต่หมายถึงในอนาคตด้วย?
พวกเราเป็นทีมคนหนุ่ม มีความทะเยอทะยานอย่างสูงในอนาคต ผมคิดว่าเราจะกลับมาคว้าถ้วยแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่กุนซือต้องการนำกลับมาสู่สโมสรของเรา นอกจากนี้เขายังมีจิตวิญญาณของผู้ชนะ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะช่วยเหลือผู้เล่นของเราเป็นอย่างมาก เหล่านี้คือสิ่งที่ผมมั่นใจว่าทั้งผู้จัดการทีม และสตาฟโค้ชจะพยายามนำมันเข้ามาสู่สโมสร และพวกเราก็กำลังรอมันอยู่
ตื่นเต้นไหมครับที่ได้เป็นส่วนสำคัญของการสร้างทีมครั้งใหม่?
แน่นอน ตื่นเต้นสิครับ คุณก็เห็นบรรดาผู้เล่นที่เราดึงเข้ามาเสริมทัพในปีนี้แล้ว เราพยายามสร้างและพัฒนาต่อจากฤดูกาลที่แล้ว และผมมั่นใจว่า พวกเราจะทำได้สำเร็จ
‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปรียบเสมือนกับครอบครัว’ นั่นเป็นสิ่งที่พาคุณมาสู่สโมสรหรือไม่? และคุณเห็นสิ่งที่ว่าตั้งแต่วันแรกในสนามซ้อมเลยหรือเปล่า?
ใช่ครับ นี่เป็นสโมสรที่มหัศจรรย์มาก เป็นสโมสรที่ผมได้ชมการแข่งขัน และเอาเป็นแบบอย่างตั้งแต่สมัยที่ยังเด็ก คุณฝันอยู่เสมอว่าจะได้เดินเข้าสู่สนามเวมบลีย์ และโอลด์แทรฟฟอร์ด สองสนามยักษ์ใหญ่ที่คุณฝันไว้ตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันแล้ว ผมย้ายมาที่นี่แล้ว และทุกคนก็ให้การต้อนรับดีมาก ผมรอที่จะพบกับเพื่อนร่วมทีม และลงแข่งขันไม่ไหวแล้วครับ
คุณเริ่มเตะบอลตอนอายุ 11 กับทีมบ้านเกิดอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อีกทั้งยังเคยเป็นเด็กเก็บบอลที่นั่นอีกด้วย รู้สึกอย่างไรที่จะได้กลับไปในฐานะผู้เล่นปีศาจแดง?
เหลือเชื่อครับ พวกเขาทำได้ดีมากกับการกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง มันคงเป็นการแมทช์ที่ยอดเยี่ยมที่ได้กลับไปเล่นที่สนาม บรามอลล์ เลน อีกครั้งหนึ่ง จะเป็นที่ผมรอคอยเลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด ผมคงทำผลงานอย่างเต็มที่ เก็บ 3 แต้มมาให้ได้ แต่มันจะเป็นโมเมนต์ที่แสนพิเศษสำหรับผมครับ
คุณเป็นส่วนหนึ่งของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย…
เป็นประสบกาณณ์ที่มหัศจรรย์เลยครับ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้ก้าวขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ผมคิดว่าวันนัั้นเราขายตั๋ว 30,000 ที่นั่งหมดเกลี้ยงในสนามบรามอลล์ เลน หลังจากนั้นต้องไปเล่นต่อที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด ครั้งแรกในชีวิตเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อสุดๆ ผมคงไม่มีวันลืมเหตุการณ์นั้นได้ และตอนนี้ผมอยู่ที่นี่แล้ว บ้านของผม งานที่ผมต้องทำในทุกๆ วัน ซึ่งผมตั้งตารอแล้วครับ
ประสบการณ์แรกของคุณกับ โอลด์แทรฟฟอร์ด เป็นอย่างไรบ้างครับ?
ตอนที่ผมยังเด็ก ผมเดินออกมาจากทางห้องแต่งตัว มันเกินจริงไปหน่อย ทั้งแฟนบอล ทั้งสนาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก มันวิเศษสุดๆ เหมือนอย่างที่ผมเคยพูดไว้ ผมตั้งหน้าตั้งตาลงสนาม และหวังว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จอะไรบางอย่างที่นี่ครับ
คุณได้กลับมาทำงานกับ ไมค์ ฟีแลน ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทีมคุณที่ ฮัลล์ ซิตี้ เขาได้สอนอะไรคุณมาบ้าง หรือเคยพูดอะไรถึง ยูไนเต็ด ไว้หรือเปล่าครับ?
เขาให้คำแนะนำผมตลอด รวมถึงบอกเทคนิคต่างๆ จากผู้เล่นระดับท็อปที่เขาเคยร่วมงานด้วย เขามีประสบการณ์เยอะมาก และผมก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไมค์ บอกตรงๆ นะครับ ไมค์คือคนที่พลิกโฉมหน้าฮัลล์ ซิตี้ และให้โอกาสผมลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ผมได้ลงเล่นบ่อยขึ้น และเริ่มพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถลงแข่งขันในลีกสูงสุดอังกฤษได้ ผมติดหนี้เขาไว้เยอะเลยล่ะ
ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกับเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาเป็นโค้ชตัวเป้ง ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด และผมก็ติดต่อกับเขามาตลอดเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นมันดีมากๆ ที่จะได้ร่วมงานกับเขาอีกครั้ง
คุณยังเคยมีสตีฟ บรูซ เป็นผู้จัดการทีมที่ฮัลล์ด้วย ซึ่งเขาก็เคยประสบความสำเร็จในฐานะกองหลังตัวกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด…
ใช่ครับ ผมโชคดีตลอดเลยในเรื่องของผู้จัดการทีม ผมได้ประสบการณ์ดีๆ จากกองหลังหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ลงสนามภายใต้การคุมทีมของพวกเขา สตีฟยอดเยี่ยมกับผมมากๆ ส่วนฮัลล์ก็เป็นสโมสรที่ผมต้องขอบคุณพวกเขาเยอะเลยครับ ผมมีเวลาที่มหัศจรรย์ที่นั่น แน่นอน ไมค์ และสตีฟ เป็นอดีตผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมได้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะเลยครับ
คุณยังมี แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นเจ้านายในทีมชาติอังกฤษด้วย มันช่วยเพิ่มประสบการณ์ในตำแหน่งกองหลังไหม เวลาที่คุณได้มีโอกาสทำงานกับโค้ชเหล่านั้น?
แน่นอนครับ เหมือนที่ผมเคยพูดไป ผมโชคดีในเรื่องของผู้จัดการทีมมาก ได้เจอกับมืออาชีพที่เล่นอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน ผมเรียนรู้จากพวกเขาทุกๆ วัน ตอนฝึกซ้อม พวกเขามักจะให้คำชี้แนะ และมอบหมายงานให้ผมพัฒนาอยู่เสมอ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผมพัฒนาฟอร์มการเล่น
ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา คุณคิดว่าพัฒนาไปถึงระดับไหนแล้วครับ?
ผมรู้สึกมีประสบการณ์ในพรีีเมียร์ลีกมากขึ้น เริ่มมั่นใจมากขึ้น นิ่งขึ้น ประสบการณ์คือสิ่งสำคัญที่สุด ตอนที่คุณยังเด็กคุณลงแข่งมาหลายต่อหลายนัดแล้วคุณก็เรียนรู้ เหมือนที่ผมทำในช่วงที่เล่นอยู่ลีกวัน ก่อนจะขึ้นมาแชมเปี้ยนส์ชิพ และก้าวมาสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ผมรู้สึกว่านั่นช่วยผมได้เยอะมาก ได้จัดการกับสถานการณ์ต่างๆ มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก และผมก็ยิ่งคุ้นเคยกับมันมากขึ้นไปอีก
จุดแข็งของคุณในฐานะนักฟุตบอลคืออะไรครับ?
อย่างแรกเลย และสำคัญที่สุด ผมทุ่มเททุกอย่างให้กับทีมครับ ผมเป็นทีมเพลเยอร์ (Team-Player) ผมจะสร้างคุณสมบัติที่แตกต่างให้กับทีม ความนิ่ง และใจเย็น แต่หลักๆ แล้วคือการคว้าชัยชนะ และหวังว่าผมจะช่วยพามันมาสู่สโมสรได้
ฟุตบอลโลกที่รัสเซียน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของคุณ ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างครับในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว?
อย่างแรกเลย การได้ถูกเรียกไปติดทีมชาตินี่มันเหลือเชื่อสุดๆ หลังจากนั้นมันก็เป็นการเดินทางที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ เราไปกับแบบทีม การสนับสนุนของแฟนๆ ก็สุดยอดมาก มันเป็นเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตของผมเลยล่ะ มันทำให้ผมอยากจะเล่นมากขึ้นไปอีก ลงสนามในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้น สำหรับผม มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากครับ ผมจะไม่มีวันลืมได้เลย
คุณคิดว่าการเล่นฟุตบอลทีมชาติช่วยพัฒนาฝีไม้ลายมือในระดับสโมสรด้วยไหม?
ครับ แน่นอน การได้ทำงานกับแกเร็ธ ด้วยวิธีการจัดการของเขาตั้งแต่ผมไปอยู่ที่นั่น โดยเฉพาะในช่วงฟุตบอลโลก มีทั้งวิดีโอวิเคราะห์การเล่น และคำแนะนำช่วยให้ผมพัฒนาฝีมือการเล่นได้มากเลยล่ะ ผมคิดว่ามันช่วยพัฒนาผมจริงๆ จนทำให้ผมรู้สึกว่า ผมสามารถลงแข่งขันในระดับสูง ต่อสู้ในเกมที่กดดันสุดๆ ได้ ซึ่งในขณะนี้ผมกำลังจะต้องเจอกับมันครับ
คุณรู้จักกับผู้เล่นยูไนเต็ดหลายๆ คนจากทีมชาติ มันช่วยอะไรคุณบ้างไหม เพราะตอนนี้คุณยังไม่ได้เจอกับพวกเขาอย่างเป็นทางการเลย
ผมรู้จักผู้เล่นหลายคนเลยครับ มันช่วยมากนะ เพราะผมรู้สึกว่า ผมจะเข้ากับเพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมันจะช่วยในเรื่องของผลงานในสนามด้วยครับ ทั้งมาร์คัส เจสซี่ และยังกี้ ล้วนอยู่ที่ฟุตบอลโลกกันหมด พวกเรามีช่วงเวลาดีๆ ที่นั่น แถมยังกี้ยังจ่ายงามๆ ให้ผมทำประตูในฟุตบอลโลกได้อีก ผมรอเจอพวกเขา และเริ่มต้นฤดูกาลไปพร้อมๆ กับพวกเขาแล้วครับ
คุณคงได้ดวลกับมาร์คัส แรชฟอร์ด เจสซี่ ลินการ์ด ช่วงซ้อมในเกมทีมชาติมาแล้วสิ?
ครับ หลายครั้งเลยล่ะ ทั้งคู่เป็นผู้เล่นระดับท็อป คมมากๆ ได้แต่หวังว่าพวกเขาคงอยู่ทีมผมตอนซ้อมนะ
ย้ายมาสโมสรใหม่รู้สึกยังไงบ้างครับ มีอะไรที่กังวลตอนเดินออกมาในสนามซ้อมครั้งแรกไหม?
ผมรู้จักกับผู้เล่นหลายๆ คนมาก่อนแล้ว แถมยังเคยทำงานกับไมค์มาก่อนเช่นเดียวกัน นั่นก็ช่วยคลายความกังวลไปบ้าง มันคงมีอาการตื่นเต้นบ้างแหละครับ แต่ปกติผมควบคุมความตื่นตระหนกได้ดีนะ ผมเป็นคนที่มีความมั่นใจ และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี เพราะได้ประสบการณ์จากระดับทีมชาติ และผู้เล่นเก่งๆ จากสโมสรที่ยอดเยี่ยมช่วยไว้ด้วยครับ
หยุดการทำประตูกับการขึ้นไปทำประตูในจังหวะที่ทีมกำลังบอมบ์ใส่คู่แข่ง ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็ค อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขมากที่สุด?
หยุดประตูอยู่แล้วครับ เป็นสิ่งแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมมองตัวเองในฐานะกองหลังที่ยอดเยี่ยม นั่นจึงเป็นเรื่องหลัก ผมอยู่ในทีมเพื่อหยุดการเข้าทำประตูของอีกฝั่ง เก็บคลีนชีทให้ได้ นอกเหนือจากนั้นถือว่าเป็นโบนัสการทำประตูมันก็ดีนะครับ แต่เก็บคลีนชีท และเล่นเกมรับคือหน้าที่ที่สำคัญที่สุด
บอกมาแบบนี้แสดงว่าการทำประตูคงไม่อยู่ในหัวคุณเลยล่ะสิ…แล้วคิดยังไงถ้าได้โหม่งประตูนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาต่อหน้าแฟนบอล สเตรทฟอร์ด เอนด์ ล่ะ?
เป็นอะไรที่เหมือนกับฝันเลยล่ะครับ แน่นอน ผมรู้สึกว่า ผมจะได้มีโอกาสทำประตูแน่ๆ ผมพยายามตั้งสมาธิเวลาอยู่ในกรอบเขตโทษเสมอ และหวังว่ามันจะเกิดขึ้นต่อไปในปีนี้ ด้วยฝีเท้าการจ่ายบอลของผู้เล่นยูไนเต็ด ผมทำประตูได้แน่ๆ ครับ
คุณอยู่ที่นี่กับเราแล้ว และพร้อมที่จะลงสนาม อยากฝากอะไรถึงแฟนบอลปีศาจแดงไหมครับ?
ผมภูมิใจมากๆ กับการย้ายมาเล่นที่นี่ นี่เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมมองไปถึงการลงสนามแล้วครับ หวังว่ามันจะเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ และผมก็จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
ที่มา : Daily Mail
