การเงินเศรษฐกิจ

ยืนยันตัวตนรอบอุทธรณ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ตั้งแต่ พ.ย. ไม่ได้เงินย้อนหลัง

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ผู้ถือบัตรคนจนยื่นอุทธรณ์รอบแรก หากยืนยันตัวตนหลังเวลาที่กำหนด จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พร้อมเช็กสิทธิผู้ผ่านคุณสมบัติรอบสอง เอกสารที่ใช้ และวิธียืนยันตัวตน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2566 จะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่ช่วงต้นเดือน โดยผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรคนจนและผ่านการพิจารณารอบอุทธรณ์เพิ่มเติมรอบแรก และยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ส่วนผู้ที่ผ่านการพิจารณารอบที่สอง จะได้รับสิทธิย้อนหลัง ในวันที่ 1 ธันวาคม 2566

ยืนยันตัวตนรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 ไม่ได้เงินย้อนหลัง

ผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติมที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 และได้ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 รวมถึงตรวจสอบแล้วว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะมีสิทธิรับเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน

โดยผู้มีสิทธิต้องยืนยันตัวตนรอบอุทธรณ์ ภายในวันที่กำหนด จึงจะสามารถใช้สิทธิได้ในเดือนถัดไป รวมถึงจะได้รับสิทธิย้อนหลัง รวมทั้งสิ้น 7 เดือน จำนวนเงิน 2,100 หากลงทะเบียนภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2566

หากผู้มีสิทธิยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2566 จะไม่ได้รับเงินย้อนหลังจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยจะได้รับเงินค่าอุปโภคและบริโภคจำนวน 300 บาท ตามที่รัฐบาลกำหนดให้ในแต่ละเดือนเท่านั้น

ยืนยันตัวตนรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม 17 ก.ค. 66

ผ่านอุทธรณ์รอบสอง ยังมีสิทธิรับเงินย้อนหลัง

สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์ ประกาศผลวันที่ 28 สิงหาคม 2566 และยืนยันตัวตน และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566

หากดำเนินการยืนยันรอบอุทธรณ์ภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 จะได้รับสิทธิย้อนหลังบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนพฤศจิกายนเช่นเดียวกับรอบแรก ทั้งนี้ หากยืนยันตัวตนตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม – 26 พฤศจิกายน 2566 จะยังคงได้รับสิทธิย้อนหลัง 8 เดือน ในเดือนธันวาคม จำนวน 2,400 บาท

รอบอุทธรณ์เพิ่มเติม 28 ส.ค. 2566

เอกสารยืนยันตัวตนสำหรับผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียง

สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติรอบอุทธรณ์เพิ่มเติม แต่ไม่สามารถดำเนินการยืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง อาทิ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยมีเอกสารที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตน ดังนี้

1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ได้รับสิทธิ)

2. หนังสือมอบอำนาจการยืนยันตัวตน (สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโครงการฯ)

3. บัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ

4. บัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)

5. ใบสำคัญการหย่าหรือ ใบมรณบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายตาย เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไขที่ได้ยื่นเอกสารหนังสือประกอบการพิจารณา กรณีผู้ลงทะเบียนไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้

ช่องทางตรวจสอบผลอุทธรณ์

กระทรวงการคลัง ได้ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ผ่านเกณฑ์รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบอุทธรณ์เพิ่มเติมทั้ง 2 รอบ โดยมีผู้ได้รับสิทธิบัตรคนจนเพิ่มเติมรอบแรก จำนวน 1,830 คน และรอบที่สอง 114 คน โดยผู้ที่ยื่นอุทธรณ์และดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอน ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

1. ตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https:// welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ของทุกวัน

2. ตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ, ที่ว่าการอำเภอ 878 อำเภอทั่วประเทศ, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา

3. ตรวจสอบผ่านเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

วิธียืนยันตัวตนหากผ่านการพิจารณา

ผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ และมีสิทธิรับเงินจากบัตรคนจน สามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ หรือสมาร์ตการ์ด (Smart Card) มาใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตามวันและเวลาทำการของธนาคารกรุงไทยแต่ละสาขา

เมื่อยืนยันตัวตนที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนผ่านทางเว็บไซต์ https:// บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https:// welfare.mof.go.th หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน รวมถึงสามารถติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงาน ตามวันและเวลาที่เปิดทำการได้

นอกจากนี้ ผู้ที่มีสิทธิรับเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขตามบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้กระทรวงการคลัง สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Kamonlak

นักเขียนข่าวประจำ Thaiger ผู้มีความสนใจที่หลากหลาย มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเขียนข่าวการเงิน เศรษฐกิจ จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานอดิเรก ติดตามข่าวสารความบันเทิง โดยเฉพาะภาพยนตร์และแอนิเมชัน เขียนงานโดยมีแนวคิดที่ต้องการถ่ายทอดมุมมองของตัวเองและถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ช่องทางติดต่อ kamonlak@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button