การเงินเศรษฐกิจ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ใช้อะไรได้บ้าง โอนงวดแรก 1 เมษายน 2566

สรุปรวดเดียวจบ เงินเข้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนเมษายน 2566 สามารถใช้จ่ายอะไรได้บ้าง ส่องสิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรคนจนล่าสุด 2566 อัปเดตล่าสุดวันนี้

คืนหน้าเช็คสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันนี้ 10 มีนาคม 2566 นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ตั้งวงเงินสิทธิให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือน มี.ค. 2566 ดังนี้

รอบทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (ซื้อของใช้/ค่าโดยสาร)

เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

1. วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 66)

3. วงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย

  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

รอบทุกวันที่ 18 ของทุกเดือน (ค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำ)

เป็นวงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

1. เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน

2. เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรคนจนเป็นผู้ชำระเอง

รอบทุกวันที่ 22 ของทุกเดือน (เบี้ยผู้พิการ)

เป็นวงเงิน e-Money สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ใช้อะไรได้บ้าง

ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1-28 ก.พ. 2566 ดังนี้

1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน (ล้านบาท)

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,512.52

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 28.55

1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 21.70

1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด 6.69

1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 14.80 รวมจำนวนเงิน (1) 3,584.26 บาท

2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) จำนวนเงิน (ล้านบาท)

2.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 172.10

2.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17.81

2.3 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 215.56
รวมจำนวนเงิน (2) 405.46 บาท โดยรวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) 3,989.72 บาท

สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะสามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2566 ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 แล้ว ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิจำนวน 14.59 ล้านคน

ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0-2109-2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 ในวัน เวลาราชการ

game_banner

baesittichot

นักเขียนสายฮาอารมณ์ดี ไลฟ์สไตล์ เรื่องน่ารู้ทั่วไป ตามติดเทรนด์ฮิตที่ห้ามพลาด อัปเดตข่าวเศรษฐกิจ การเงิน ประสบการณ์งานเขียนมากกว่า 1 ปี ชอบเม้าท์มอย ส่งต่อเรื่องราวน่าสนใจผ่านตัวอักษร ผลงานทุกชิ้นจึงเป็นเหมือน 'เพื่อน' ที่อยากเล่าสิ่ง ๆ ต่างให้คุณได้รู้เป็นคนแรกเสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button