การเงิน

‘ทวงเงิน-ทวงหนี้’ บนเฟสบุ๊ค เสี่ยงติดคุก สูงสุด 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

เจ้าหนี้ยอดนักทวงเตรียมจ่ายคืน! หากเขียนโพสต์ “ทวงหนี้ ทวงเงิน” บนเฟสบุ๊คเสี่ยงผิดกฎหมาย มีโทษหนักทั้งจำคุก ไม่เกิน 1 ปีและปรับไม่เกิน 100,000 บาท เช็กเงื่อนไขให้พร้อม ใครมีสิทธิทวงหนี้

ไม่ใช่ว่าใคร ๆ จะสามารถโพสต์ทวงเงินลูกหนี้ผ่านเฟสบุ๊คได้เสมอไป เปิดกฎหมายทวงหนี้บน Facebook ตาม พ.ร.บ. ทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 คุ้มครองสิทธิของลูกหนี้ และตาม พ.ร.บ. นี้ ถ้าเจ้าหนี้ทวงถามหนี้ที่เป็นเท็จ (มาตรา 12) หรือผู้ทวงถามหนี้กระทําการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม (มาตรา 13) จะได้รับโทษหนักขึ้น มีโทษทั้งจำคุก สูงสุด 1 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท แต่ถ้าอยากทวงหนี้จริง ๆ ควรโพสต์แบบไหนและใครบ้างสามารถทวงเงินลูกหนี้ผ่านหน้าแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คบ้าง

ผู้มีสิทธิ “ทวงเงิน” ลูกหนี้

สำหรับผู้ที่มีสิทธิทวงหนี้ คือ “เจ้าหนี้โดยตรง” (ให้ใครกู้หนี้ยืมสินก็นับเป็นเจ้าหนี้โดยตรง) ไม่ว่าจะเป็นองค์กร สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการสินเชื่อ, บัตรเครดิต, เช่าซื้อ รวมถึงเจ้าหนี้นอกระบบ และเจ้าหนี้ในกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย (เช่น หนี้การพนัน) ครอบคลุมถึงผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ตามกฎหมาย

ผู้รับมอบอำนาจช่วง (ผู้ได้รับมอบอำนาจ จากผู้รับมอบอำนาจอีกทอดหนึ่ง) ผู้ประกอบธุรกิจทวงหนี้ และผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ด้วย ทั้งนี้ หากผู้รับมอบอำนาจมาทุกกรณี หากลูกหนี้ทวงถามต่อหน้าต้องนำหลักฐานการมอบอำนาจมาแสดงด้วย

กฎหมายทวงหนี้บนเฟสบุ๊ก

“ทวงหนี้” แบบไหนให้เหมาะสม

สำหรับวิธีการทวงเงิน ทวงหนี้ ที่เหมาะสมนั้นจะต้องให้ความสำคัญต่อหลักสิทธิมนุษยชนของลูกหนี้ โดยมีวิธีการทวงหนี้ทั้งหมด 4 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. การติดต่อ : โดยบุคคล หรือไปรษณีย์
  2. สถานที่ติดต่อ : สถานที่ที่ระบุไว้เพื่อการทวงหนี้ หากลูกหนี้ไม่ได้แจ้งให้ติดต่อตามภูมิลำเนา ถิ่นที่อยู่ หรือสถานที่ทำงานของบุคคลดังกล่าว หรือตามที่คณะกรรมการทวงถามหนี้ประกาศกำหนด
  3. เวลาที่ติดต่อ : สามารถทวงหนี้โดยบุคคล โทรศัพท์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่าง 8.00 น.- 20.00 น. วันหยุดราชการ 08.00 น.-18.00 น.
  4. ความถี่ : สามารถทวงได้ ไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน (ถ้า “เพื่อนทวงเพื่อน” ทวงได้เกิน 1 ครั้งต่อวัน)

ทั้งนี้วิธีการนับจำนวนครั้งหรือความถี่ในการตั้งโพสต์ทวงหนี้บนเฟสบุ๊ค จะต้องนับการทวง เมื่อลูกหนี้รับโทรศัพท์และรับทราบการทวงอย่างชัดเจน หรือเมื่อลูกหนี้เปิดอ่านไลน์การทวง แต่ถ้าไลน์ไปแต่ไม่ได้เปิดอ่าน โทรหาไม่รับ หรือโทรไปแต่ยังไม่ทันได้พูดเรื่องหนี้ชัดเจน เป็นแค่การทักทายกัน ตามกฎหมายจะไม่นับเป็นการทวงหนี้

ทวงหนี้แบบไหนเสี่ยงติดคุกถูกปรับ

แม้ว่าจะมีลูกหนี้ที่ยืมเงินมากแค่ไหน แต่ลูกหนี้ทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย ในฐานะเจ้าหนี้จะต้องทวงถามหนี้กับลูกหนี้อย่างสุภาพชนดั่งผู้มีการศึกษาในสังคมโลกาภิวัตน์ ให้เกียรติ และงดการประจานดูหมิ่นให้ลูกหนี้เกิดความเสื่อมเสียและอับอาย เพื่อปกป้องสิทธิของลูกหนี้ ดังนั้นกฎหมายจึงกำหนด ข้อห้ามต่าง ๆ ในเรื่องการทวงหนี้ไว้อย่างชัดเจน อันประกอบด้วย 7 ข้อห้ามต่าง ๆ ดังนี้

  1. ห้ามทวงถามหนี้กับคนอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้ เว้นแต่บุคคลที่ลูกหนี้ระบุไว้
  2. ห้ามบอกความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่น เนื่องจากกฎหมายไม่ให้ประจานลูกหนี้ หรือทำให้ลูกหนี้เสียชื่อเสียง โดยบอกคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ยกเว้น (1) เป็นคนในครอบครัวลูกหนี้ เช่น สามี ภริยา บุพการี ผู้สืบสันดาน และกรณีที่บุคคลอื่นถามเจ้าหนี้ว่า “มาติดต่อเพราะสาเหตุอะไร”
  3. ห้ามใช้ข้อความ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือชื่อทางธุรกิจ บนซองจดหมาย หนังสือหรือสื่อใด ๆ ให้(บุคคลอื่น) เข้าใจว่า ติดต่อเพื่อทวงหนี้
  4. ห้ามติดต่อ แสดงตนทำให้ผู้ติดต่อด้วยเข้าใจผิด เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ติดต่อของลูกหนี้
  5. ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ถือว่ามีความผิด ตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 และอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย
  6. ห้ามใช้วาจาหรือภาษาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้หรือผู้อื่น
  7. ห้ามทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสมในลักษณะอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ประกาศ

ทวงหนี้บนเฟซบุ๊ก โทษปรับ

บทลงโทษสำหรับเจ้าหนี้ที่ทำผิดกฎการทวงหนี้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า บุคคลใดที่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ต่อลูกหนี้คนนั้น ๆ หากทวงถามเงินหรือทวงหนี้สิน ที่เป็นการละเมิดข้อห้ามการทวงหนี้ที่ระบุไว้จะถือว่ามีความผิด

สามารถแจ้งร้องเรียนเอาผิดได้ โดยคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้สามารถมีคำสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าว หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับได้

วิธีการร้องเรียนเจ้าหนี้ที่ทำผิดกฎหมายการทวงเงิน

ลูกหนี้หรือประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่ “คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้” ที่มีตั้งแต่ระดับประเทศ และระดับจังหวัด หรือ “ที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจ” ในท้องที่ เพื่อแจ้งการกระทำความผิดได้

อ้างอิง : 1

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button