บิ๊กตู่ แมนๆ ลั่น ขอรับผิดชอบเอง คดีเหมืองทองอัครา 3 หมื่นล้าน
เหมืองทองอัครา – ความคืบหน้ากรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สมัยเป็นหัวหน้าคสช. ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. 72/2559 สั่งห้ามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่ออายุประทานบัตรและใบอนุญาตเหมืองทองชาตรีซึ่งบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบกิจการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ต่อมาบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรีเลีย บริษัทแม่ ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยด้วยข้อหาละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) เข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
ล่าสุดวันที่ 29 ต.ค. ในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการหารือต่อเรื่องดังกล่าว มีข้อสรุปออกมาเบื้องต้น 4 ประการคือ
1.จ่ายเงินให้กับบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการ
2.ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) อาจทำให้ไม่ต้องจ่ายเงิน
3.รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แล้วปฏิบัติตาม ซึ่งจะมีการไต่สวนนัดแรก 18-29 พ.ย.2562
4.หาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหาย แล้วให้ดำเนินกิจการต่อ
อย่างไรก็ดีที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้แนวทางใด ขณะที่พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ผมรับผิดชอบเอง เนื่องจากเป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่ได้ฟันธงว่าจะดำเนินการไปในแนวทางใด
เบื้องต้น มีรายงานการประเมินตัวเลขความเสียหายของบริษัท อัคราฯ จากการถูกปิดเหมืองอยู่ประมาณ 3.6-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญงบประมาณ 2563 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หากต้องมีการจ่ายเงินให้กับบริษัทอัครา คสช.จะต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ประชาชน เพราะเป็นคนออกคำสั่ง ม.44 เอง คณะกรรมาธิการคงไม่ยอมให้เอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายค่าปรับซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม
