เปิดเวมบลี่ย์ถล่ม ! ไฮไลท์: อังกฤษ 4-0 บัลแกเรีย, เคน กดแฮตทริก

Maestro WPเผยแพร่: 08 ก.ย. 2562 08:44 น.| อัปเดต: 08 ก.ย. 2562 11:44 น.

95 1 minute read

ยูโร 2020 รอบคัดเลือก (กลุ่ม ซี)
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562
ผล: อังกฤษ 4-0 บัลแกเรีย (HT: 1-0, FT: 4-0)

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก การพบกันระหว่าง สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนาม เวมบีลย์ ต้อนรับการมาเยือนของ บัลแกเรีย

เกมนี้ แกเร็ธ เซาท์เกต จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ เคน และ ราฮีม สเตอร์ลิง ตัวจริง 3 ผสานแนวรุก ในขณะที่ จาดอน ซานโช เป็นเพียงตัวเลือกที่ม้านั่งสำรอง

ทีมเยือน บัลแกเรีย กุนซือ บาลาคอฟ จัดทัพมาตั้งรับเต็มที่ในระบบ 5-4-1 มาร์เซลินโญ่ รับหน้าที่ล่าตาข่ายหน้าเป้า

Your @bt_uk Player of the Match! 🏆

Well done, @HKane 👏 pic.twitter.com/eN2NywxVUG

— England (@England) September 7, 2019

นาที 14 ทีมชาติอังกฤษได้ลุ้นยิงประตูเป็นหนแรกจากจังหวะ แม็คไกวร์ วางบอลขึ้นหน้าไปให้ แดนนี่ โรส ที่เติมขึ้นไปตวัดเปิดเข้ามาตรงกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิงมาวอลเลย์เต็มแรงแต่คุมทิศทางไม่อยู่บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 18 เจ้าบ้านพลาดได้ประตูขึ้นอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะ รอสส์ บาร์คลีย์ วางยาวไปให้ สเตอร์ลิง จับบอลลงสวยแล้วปาดเข้าไปให้ แฮร์รี่ เคน แปเข้าไปแล้ว แต่กรรมการยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

GOAL !!! นาที 22 จากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แนวรับ บัลแกเรีย เคาะบอลเล่นกับ ผู้รักษาประตูก่อนจ่ายไม่ดี สเตอร์ลิง วิ่งมาฉกไปได้ แล้วจ่ายให้ แฮร์รี่ แปเข้าไปง่าย ๆ อังกฤษ 1-0 บัลแกเรีย

The #ThreeLions lead at the break. Keep it up in the second half, lads! 👊 pic.twitter.com/0CdzNlvqg6

— England (@England) September 7, 2019

นาที 30 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากจังหวะต่อบอลกันขึ้นมาสวย บอลออกข้างไปที่ อิเวลิน โปปอฟ ครอสเข้ามาถึง กาลิน อีวานอฟ เทคตัวโขกโล่ง ๆ แต่บอลโดนไม่เต็มหัวตกกระดอนพื้น พิคฟอร์ค รับสบาย ๆ

นาที 36 นิโคไล โบดูรอฟ รับใบเหลืองจากจังหวะไปดึงเสื้อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่พยายามกระชากหนี

นาที 43 ทีมชาติอังกฤษ เกือบขึ้นนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะ เปิดเข้าไปลุ้นของ ทริปเปียร์ เลยไปถึงเสาไกล แฮร์รี่ เคน โขกเน้น ๆ แต่ไปติดเซฟอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นไม่มีจังหวะได้ลุ้นเพิ่ม จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ บัลแกเรีย อยู่ 1-0

GOAL !!! เริ่มเกมครึ่งหลังในนาที 48 อังกฤษ มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปในเขตโทษ นิโคไล โบดูรอฟ ที่วิ่งตามมาสกัดพรวดสไลด์ใส่ แรชฟอร์ด ล้มลง ผู้ตัดสินชั้เป็นจุดโทษและเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด อังกฤษ 2-0 บัลแกเรีย

GOAL !!! นาที 55 อังกฤษ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะแนวรับ บัลแกเรีย จ่ายพลาด เคน ตัดได้ แล้วฝากให้ แรชฟอร์ด พาลุยขึ้นมาก่อนจ่ายออกข้างให้ เคน และตบเข้ามาตรงกลาง สเตอร์ลิง ไม่ต้องทำอะไรมากบอลโดนตัวเข้าประตูไปง่าย ๆ อังกฤษ 3-0 บัลแกเรีย

7️⃣ goals in 7️⃣ games for the #ThreeLions.

Keep it up, @sterling7! pic.twitter.com/XPHa01a5ez

— England (@England) September 7, 2019

นาที 66 เมสัน เมาท์ ได้รับโอกาสลงสนามแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

นาที 70 จาดอน ซานโช่ ถูกส่งลงไปแทน ราฮีม สเตอร์ลิง

GOAL !!! นาที 73 เจ้าบ้านมาบวกประตูเพิ่มอีกเป็น 4-0 จากจังหวะ คริสเตียน ดิมิตรอฟ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองพยายามแย่งบอลจาก แฮร์รี่ เคน แต่กรรมการมองว่าเป็นการเตะตัดขาชี้เป็นจุดโทษและเป็น เคน ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารไม่พลาดเป็นแฮททริคในเกมนี้

HAT-TRICK HARRY 👏@HKane has his third as he scores again from the penalty spot! pic.twitter.com/8SsK9W3Roz

— England (@England) September 7, 2019

นาที 75 บัลแกเรีย พลาดได้ประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายจากลูกฟรีคิกระยะหวังผลของ โปปอฟ แต่ พิคฟอร์ต พุ่งชกออกไปได้

นาที 76 อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอเลน ลงมาแทน แฮร์รี่ เคน

ช่วงท้ายเกม นาที 87 อังกฤษ น่าจะได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะทำชิ่ง 1-2 ของ บาร์คลีย์ ให้ แรชฟอร์ต หลุดเข้าไปจิ้มบอลแต่ติดเซฟ พลาเมน อิลิเยฟ

หลังจากนั้นไม่มีจังหวะได้ลุ้นประตูเพิ่ม จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านถล่ม บัลแกเรีย 4-0 เก็บเพิ่ม 3 คะแนน แข่ง 4 นัด เก็บ 12 คะแนนเต็ม รั้งจ่าฝูง ในขณะที่ บัลแกเรีย แข่ง 5 นัด เก็บได้เพียง 2 คะแนน