วิเคราะห์การแบ่งสายวอลเลย์บอลคัดโอลิมปิก แบบไหนดีต่อไทยที่สุด
วอลเลย์บอล – วอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งเอเชียจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดย 3 อันดับ ทีมที่ดีที่สุดคือ ญี่ปุ่น ไทย และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังได้ทราบผล 8 ทีมเอเชียที่ดีที่สุดที่จะมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกตั๋ววอลเลย์บอลโอลิมปิกรอบทวีปเอเชีย จะจัดขึนระหว่างวันที่ 6-12 มกราคม 2563 โดย 8 ทีมดังกล่าวประกอบด้วย
1. ไทย
2. เกาหลีใต้
3. คาซัคสถาน
4. ไต้หวัน
5. อิหร่าน
6. อินโดนีเซีย
7. ออสเตรเลีย
8. อินเดีย
ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าประเทศใดจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แต่นายกสมาคมวอลเลย์บอลไทย ประกาศอย่างมั่นใจว่าจะบิดสู้เพื่อนำสิทธิ์เจ้าภาพการจัดการแข่งขันมาให้ประเทศไทยให้ได้ การเป็นเจ้าภาพนั้นจะส่งผลดีในเรื่องกำลังใจจากกองเชียร์ ทำให้นักกีฬาฮึกเหิม นอกจากนี้เมื่อเทียบกับการเป็นเจ้าภาพคัดโอลิมปิกรอบอันดับโลก เจ้าภาพมีสิทธิ์จัดตารางการแข่งขันได้ นั่นอาจช่วยให้ไทย ถ้าเป็นเจ้าภาพ สามารถเลือกได้ว่าจะเจอทีมไหนก่อนหลัง
เมื่ออิงจากระบบการจัดการแข่งขันก่อนหน้า วิธีคัดเลือกจะใช้ระบบพบกันหมด ดังนั้นทัวร์นาเมนต์ที่จะเกิดขึ้นนี้ ไทยจะต้องแข่งอย่างน้อย 7 นัด ภายใน 7 วัน คือแข่งวันละนัดไม่มีพัก (ถ้าทั้ง 8 ทีมตอบรับ) เรื่อพละกำลังและการบริหารตัวผู้เล่นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะลักษณะปัจจบันของทีมไทยคือเป็นทีมที่เครื่องร้อนช้า แมทช์แรกมักเล่นฟอร์มยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก และแมทช์หลัง ๆ สังเกตได้จากการคัดโอลิมปิกรอบระดับโลกและชิงแชมป์เอเชีย พละกำลังของทีมไทยจะหมดและฟื้นตัวยากขึ้น เนื่องด้วยผู้เล่นชุดหลักอายุมากขึ้น และผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนก็กำลังพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บทั้ง พิมพ์พิชญา อัจฉราพร หัตถยา เป็นต้น
เมื่อลองวิเคราะห์จาก 8 ประเทศ สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือสายแข็ง กับสายอ่อนได้ดังนี้
สายอ่อน คือ สายที่ไทยน่าจะสามารถเก็บชัยชนะได้ไม่ยาก และประเทศเหล่านี้ไม่เคยชนะไทยมานานมากแล้ว ประกอบด้วย อิหร่าน อินโดนี เซียออสเตรเลีย และ อินเดีย
ทีมสายแข็ง คือทีม ที่เคยชนะไทย หรือมีฝีมือใกล้เคียงกัน สามารถฮึดสู้ชนะไทยได้ ประกอบด้วย
เกาหลีใต้ ชนะไทยหมาด ๆ ในชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา
คาซัคสถาน ผู้เล่นรูปร่างสูงใหญ่แบบยุโรป เคยปาดหน้าไทยไปโอลิมปิก 2008 มาแล้ว ทั้งยังเคยชนะไทยในชิงแชมป์เอเชีย 2013 กัปตันกิฟต์ วิลาวัลย์ บอกว่าให้ระวังอาจจะมีการโอนสัญชาติผู้เล่นมา
ไต้หวัน รูปร่างใกล้เคียงไทย พบกันล่าสุดมีเกมรับที่เหนียวขึ้น เพราะได้โค้ชญี่ปุ่นคุมทีม
ความเป็นไปได้มากที่สุด ที่สองทีมสุดท้ายจะชิงตั๋วใบเดียว คือเป็นการตัดเชือกกันระหว่างไทยกับเกาหลีใต้
วิเคราะห์สภาพทีมเกาหลีใต้ คิมยอนคยอง ยังคงเป็นเอสหลักของเกาหลีใต้ และรับบอลแรก หากยามใดคับขันต้องการแต้มแน่นอน ก็มักจะโยนให้คิมตีเสมอ ซึ่งในการแข่งขันพบกับไทยที่ผ่านมา นอกจากคิมแล้ว ผู้เล่นอีกคนที่โดดเด่น คือ คิมฮีจิน แสดงให้เห็นว่าฝีมือกำลังกลับมา และหัวเสาลีแจงยอง ที่ดีวันดีคืน
แต่จุดอ่อนของเกาหลีที่พบในการแข่งเมื่อนัดตัดเชือกกับรัสเซียคือ คิมยอนคยองคือหัวใจของทีม ถ้าคิมทำแต้มไม่ได้ ทีมเกาหลีใต้ที่เหลือสมาธิจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นทีมไทยควรหาทางจับคิมให้ได้ เหมือนที่เคยทำได้ก่อนหน้าในเอเชียนเกมส์ และชิงแชมป์โลก
ส่วนสภาพทีมไทยตอนนี้จะเห็นว่าผู้เล่นหลักของไทยอยู่ในสภาพร่างกายที่ไม่สดใหม่เท่าก่อนเก่าด้วยอายุที่มากขึ้น แม้จะประสบการณ์สูง แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อเล่นนาน ๆ แมทช์หลัง ๆ พละกำลังจะยืนระยะไม่ได้ เห็นได้จากแมทช์รอบชิงกับญี่ปุ่น ที่เรากำลังไม่เต็มร้อย อันเนื่องมาจากใส่เต็มกับจีนในรอบรองชนะเลิศ
ดังนั้นผู้เล่นดาวรุ่งไทย ประกอบด้วย อัจฉราพร พิมพ์พิชญา ชัชชุอร ทัดดาว พรพรรณ และหัตถยา คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ทีมมีสภาพสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สามารถมีตัวเปลี่ยนให้ผู้เล่นได้หมุนเวียนพักได้
ทางที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
1.ไทยไม่ควรพบเกาหลีเป็นนัดแรก เพราะเครื่องยังไม่ร้อน ทั้งยังไม่ได้เห็นฟอร์มของเกาหลี และนัดแรกจะส่งผลต่อกำลังใจทีมในนัดต่อไปมาก
2.ไทยไม่ควรพบเกาหลีในนัดสุดท้าย เพราะพลังของสาวไทยอาจหมด แม้ใจสู้ไทย แต่กำลังไล่ตามลูก กระโดดตบ กระโดดบล็อกเป็นเรื่องสำคัญมากในการสู้กับผู้เล่นตัวสูงของเกาหลีใต้
ทางที่น่าสนใจคือ
1.พบกับเกาหลีใต้ในนัดกลาง ๆ เพราะทีมไทยฟอร์มจะเข้าฝัก ระบบทีมจะลงตัวพอดีกับกำลังที่วอร์มมาในนัดก่อนหน้า
2.ไทยควรพบกับทีมเบา ๆ ก่อนเจอเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการลองระบบทีม ตัวผู้เล่น เพิ่มความมั่นใจในการเก็บชัยชนะ และอาจช่วยกัํกแผนการเล่นได้บ้างก่อนเจอเกาหลีใต้
3.นัดก่อนหน้าเกาหลีใต้จะพบไทยควรพบกับคาซักสถาน ใต้หวัน ก่อน เพราะเป็นเกมที่หนักและอาจกินเวลานาน
เมื่อลองวิเคราะห์เบื้องต้น สามารถจัดสายคร่าว ๆ ได้ดังนี้
6 สิงหาคม ไทยพบออสเตรเลีย เกาหลีใต้พบอินโดนีเซีย
7 สิงหาคม ไทยพบอิหร่าน เกาหลีใต้พบคาซักสถาน
8 สิงหาคม ไทยพบเกาหลีใต้
9 สิงหาคม ไทยพบอินเดีย เกาหลีใต้พบไต้หวัน
10 สิงหาคม ไทยพบคาซักสถาน เกาหลีใต้พบอิหร่าน
11 สิงหาคม ไทยพบไต้หวัน เกาหลีใต้พบออสเตรเลีย
12 สิงหาคม ไทยพบอินโดนีเซีย เกาหลีใต้พบอินเดีย
ผลแท้จริงจะเป็นอย่างไรนั้น ลุ้นเอาใจช่วยสาวไทย 6-12 มกราคมนี้ สู้สุดใจเพื่อไปโอลิมปิก
