ข่าวการเมือง

อัยการแจง เหตุใดส่งฟ้อง ‘แรมโบ้อีสาน’ไม่ทัน หลุดคดีล้มประชุมอาเซียนปี 52 คนเดียว

อัยการแจง เหตุใดส่งฟ้อง ‘แรมโบ้อีสานไม่ทัน’ หลุดคดีล้มประชุมอาเซียนปี 52 อยู่คนเดียว

#แรมโบ้อีสาน – วันที่ 25 มิ.ย. จากกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ความคืบหน้าคดีชุมนุมระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนปี 2552 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เอาพยานหลักฐานเดิมทั้งหมดที่ฟ้องศาลอาญารัชดา มาฟ้องที่พัทยาอีกครั้ง ผลปรากฏว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน เป็นคนเดียวที่อัยการส่งฟ้อไม่ทัน คดีจึงหมดอายุความ

อ่านข่าวก่อนหน้า : ณัฐวุฒิโพสต์ ‘แรมโบ้อีสาน’ รอดคดีล้มประชุมผู้นำอาเซียนปี 52 คนเดียว อัยการอ้างนำตัวมาฟ้องไม่ทัน

ต่อกรณีดังกล่าว นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ได้รับชี้แจงข้อมูลจากสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาว่า คดีนี้มีอายุความ 10 ปีนับจากวันที่เกิดเหตุ เท่ากับว่าคดีจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62 และในระหว่างนั้นเอง อัยการเจ้าของสำนวนได้รับสำนวนจากเจ้าหน้าที่สืบสวนมา และเรียกตัวผู้ต้องหามาประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

ประเด็นอยู่ตรงที่ วันที่ 25 ก.พ. อัยการได้นัดให้ผู้ต้องหามานำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง อัยการจึงเลื่อนให้ เป็น 19 มี.ค. ของนายสุภรณ์ อัยการได้เลื่อนให้ 2 ครั้งเป็น วันที่ 2 เม.ย. อ้างเหตุว่าติดปราศรัย ขณะที่จำเลยคนอื่นเดินทางมานัดฟังคำสั่งเรียบร้อยแล้ว

แต่เมื่อถึงวันที่ 2 เม.ย. นายสุภรณ์หรือแรมโบ้อีสานก็ยังไม่มา อ้างว่าป่วย นอนแอดมิทพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อัยการจึงส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผบช.ภ.2 ให้จับกุมตัวนายสุภรณ์ มาส่งอัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.62 เเต่ทางตำรวจได้แจ้งว่า ยังไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายสุภรณ์ วันที่ 4 เม.ย.62 และอัยการได้ขอให้เร่งรัดการจับกุมแล้วเนื่องจากคดีจะหมดอายุความวันที่ 11 เม.ย.

“การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่อัยการ แต่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว แรมโบ้ไม่มาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยแน่นอน คดีนี้ที่ไม่ได้ตัวมาฟ้องจนหมดอายุความก็มีนายจักรภพ เพ็ญแขที่หนีไปต่างประเทศด้วยอีกคน”

https://twitter.com/SAHINOP/status/1143412662182694912

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button