ศักดิ์ศรีองค์กร “กกท.” จ่อฟ้องคนบิดเบือน-วิจารณ์หมิ่น “ซีเกมส์ 2025”
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประกาศฟ้องแพ่งและอาญา บุคคลหรือกลุ่มคนที่จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง ตลอดจนวิจารณ์หมิ่นประมาท กรณีจัด มหกรรมซีเกมส์ 2025 ย้ำชัดขอปกป้องเกียรติศักดิ์ศรีขององค์กร
วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เฟซบุ๊กแฟนเพจ กองประชาสัมพันธ์ของกกท. เผยแพร่ประกาศเตือนไปยังกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหลังเกิดประเด็นดราม่าหนักถึงกระอสวิพากษ์วิจารณ์การจัดการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยของเราเป็นเจ้าภาพ
โดยเนื้อหาดังกล่าวระบุชัดเจนว่า “โฆษก กกท. ประกาศแนวทาง กกท. เรื่องการนำเข้าข้อมูลเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์อันเป็นเท็จ บิดเบือนจากข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีขององค์กร กกท. และผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานและเจ้าหน้าที่ กกท.ในการปฎิบัติงาน” โดยแนบแถลงการณ์ระบุว่า
“ประกาศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ตามที่ได้มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนจากข้อเท็จจริง เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่การรับผิดชอบของ กกท. ในการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นั้น
กกท.ยินดีเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมรับการติชมในเชิงสร้างสรรค์และสุจริต โดย กกท. พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การจัดการแข่งขังขันซีเกมส์ครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากการติชมหรือวิพากวิจารณ์การดำเนินงานของ กกท. อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อมูลจากความเป็นจริง หรือมีข้อความหมิ่นประมาท ก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสีย แก่ กกท. อันอาจส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานและเจ้าหน้าที่ กกท. ในการปฏิบัติงาน กกท. จะดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญา ตามแต่กรณี
ทั้งนี้ การดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าว เป็นไปเพื่อปกป้องเกียรติ และศักดิ์ศรีขององค์กร กกท.”

ขณะเดียวกัน วันนี้ (5 ธ.ค.) อรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏภาพผู้หญิงกลุ่มหนึ่งถือป้ายโฆษณาเว็บพนันในการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 33 คู่ทีมชาติไทย พบ ติมอร์เลสเต นั้น ล่าสุดจะประสานให้ดำเนินการในเรื่องนี้เพราะคนที่เข้ามาชมต้องลงทะเบียน-ยืนยันตัวตน ซึ่งการกระทำนี้ผิดกฎหมายไทยอยู่แล้วเป็นไปไม่ได้ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะอยู่เฉยๆ จำเป็นต้องแจ้งความ จำเป็นต้องดำเนินคดี พร้อมกำชับถ่ายทอดสด ให้ดูให้ละเอียด
ส่วนกรณีฟุตบอลคู่ระหว่าง ทีมชาติเวียดนามกับลาวซึ่งก่อนเริ่มเกมไม่มีเสียงเพลงชาติของทั้งสองทีมจนทำให้นักเตะในสนามต้องตะโกนร้องเพลงชาติด้วยเสียงของตัวเองนั้น รมว.กีฬาระบุว่า เกิดจากความขัดข้องเรื่องของเทคนิคและการสื่อสาร
อย่างไรก็ตามความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเราปฏิเสธไม่ได้ โดยวันนี้ตนเดินทางไปชมแข่งขันเบสบอลชายไทย ประเดิมสนามพบกับทีมชาติเวียดนาม โดยได้ขอโทษทีมชาติเวียดนามไปแล้วในเรื่องนี้
ทั้งนี้ยืนกรานว่า การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของไทย กำลังจะเข้าสู่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 9 ธ.ค.เป็นต้นไป จนถึงพิธีปิดในวันที่ 20 ธ.ค.68 ซึ่งในมหกรรมกีฬาเป็นธรรมชาติช่วงก่อนการแข่งขันย่อมจะมีความบกพร่องถูกคาดว่าจะไม่สำเร็จ มีแนวโน้มว่าจะไม่สำเร็จ โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่ากันไปว่ากันมา
แต่หนนี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาคนปัจจุบันยอมรับว่า หนักกว่าทุกๆ ครั้งที่เคยมีประสบการณ์มา เนื่องจากไม่มีงบประมาณมาถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในส่วนของการเตรียมงาน แม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะอนุมัติกรอบวงเงินจัดการแข่งขันไว้แต่แรก แต่งบประมาณจริงๆ มาตามงบประมาณประจำปี บางปีก็มาไม่ครบ ปีแรกได้แค่ 157 ล้านบาท ปีต่อมาได้มา 883 ล้านบาท ได้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมาอีก 400 ล้านบาท รวมกับงบฯกลางอีกส่วนหนึ่ง เบ็ดเสร็จ นายอรรถกรจึงสรุปปัญหากรณีของงบประมาณสำหรับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยนั้น “เงินขาดตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว”.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ล้อกันสนุก ซีเกมส์ 2025 อวสาน AI โปรโมตกีฬายังไงให้ดูด้อยค่าตัวเอง
- อรรถกร รับจบดราม่าซีเกมส์ ปมโปสเตอร์ AI จ่อคุยผู้รับผิดชอบ-ป้ายสปอนเซอร์ปลดแล้ว
- อนุทิน ส่ง ธรรมนัส-อรรถกร ดูดราม่าซีเกมส์ ย้ำยังไม่แย่กว่ากัมพูชา
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



