
นานา ไรบีนา โดนจับข้อหาอะไร เปิดข้อกฎหมาย หลังตำรวจบุกจับ ฐานฉ้อโกง กับความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ต่างกันยังไง
จากกรณี มีรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ธันวาคม) นำกำลังเข้าจับกุม นานา ไรบีนา นักแสดงและดีเจชื่อดังวัย 45 ปี ที่บ้านพักย่านพระโขนง
สืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ ฐานฉ้อโกง กับความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
วิเคราะห์ข้อกฎหมาย ความแตกต่างระหว่าง ‘ฉ้อโกง’ กับ ‘กู้ยืมเงินฉ้อโกงประชาชน’
ในมุมมองทางกฎหมาย การตั้งข้อหาของตำรวจ ปอศ. ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการแจ้งข้อหาควบคู่กันระหว่างประมวลกฎหมายอาญาปกติ กับกฎหมายเฉพาะที่มีบทลงโทษรุนแรง ซึ่งประชาชนทั่วไปควรทำความเข้าใจความแตกต่าง ดังนี้
1. ฐานฉ้อโกง (ตามประมวลกฎหมายอาญา) ข้อหานี้พิจารณาจากการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงที่ควรบอก เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน บทลงโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีนี้เป็นความผิดอันยอมความได้ หากผู้เสียหายกับผู้ต้องหาตกลงไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายกันสำเร็จ คดีอาจยุติได้ในชั้นนี้
2. ฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ พ.ศ. 2527) ข้อหานี้มักใช้ในคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ คดีแชร์ลูกโซ่ หรือการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย องค์ประกอบความผิดคือการโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชน โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ และรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถทำกิจการให้ได้ผลตอบแทนนั้นมาจ่ายจริง
กรณีนานา มีข่าวออกก่อนหน้านี้ว่า ดีเจสาวได้ชักชวนเพื่อน คนรอบตัวลงทุน หรือยืมเงิน โดยอ้างว่าจะจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยสูงถึง 4% ต่อเดือน หรือ 48% ต่อปี
บทลงโทษหนักและรุนแรงกว่ามาก ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท ยังมีโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ข้อสังเกต คดีนี้เป็น “อาญาแผ่นดิน” ยอมความไม่ได้ แม้จะชดใช้เงินคืนผู้เสียหาย คดีก็ยังต้องเดินหน้าต่อตามกระบวนการยุติธรรม
ข้อมูลลับ ดารา น. ยืมเงินแก๊งเพื่อน 50 ล้าน จ่ายดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 48 ต่อปี
ขั้นตอนต่อไปหลังการจับกุม
ว่ากันตามหลักการ เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่เข้มงวด ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ บก.ปอศ. เพื่อทำสำนวน และปกติคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูงหรือมีผู้เสียหายจำนวนมาก พนักงานสอบสวนมักจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
คดีลักษณะนี้เข้าข่ายมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน พนักงานสอบสวนจะประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินกับดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เพื่อนำมาเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
ส่วนกรณีของการจับกุม นานา ไรบีนา ต้องดูต่อไปว่าตำรวจจะให้ประกันตัวมาสู้คดีหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจนี่ ร้องไห้หนัก เพื่อนรัก 30 ปีโกงเงิน รู้สึกเหมือนกินหญ้า ทั้งกลุ่มโดน 400 ล้าน
- หนุ่ม กรรชัย ยัน ไม่ได้แนะนำ เจนี่ แจ้งความ เผยเจ้าตัวต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว
- ดีเจดาด้า ร่ำไห้ หลัง ‘นานา’ พูดความจริงเรื่องหนี้ เหมือนถูกหักหลังจากเพื่อน 30 ปี
- กรรชัย ทิ้งบอมบ์ ‘นานา’ มีข่าวรูปธรรมรออยู่ วิเคราะห์สตอรี่ ‘เจนี่’ คาดมีส่วนเกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



