ข่าวการเมือง

“ช่อ” โต้ปมพาดหัว “ตำรวจรับส่วย” ข้อเท็จจริงชัด! โจ๊กยกคำพูดผบ.ตร.

ช่อ พรรณิการ์ สวน พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง หลังใส่ดุตำหนิสื่อพาดหัว ตำรวจรับส่วยเว็บพนันทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน ที่ปรึกษาคณะกมธ.มั่นคงฯ ย้ำชัด นักข่าวไม่ได้จับประเด็นผิด ข้อเท็จจริงหลักฐานชัด ก่อนบิ๊กโจ๊กโผล่เสริม คำพูดผบ.ตร. ตำรวจไม่รับส่วยมี 99% แล้วที่เหลือ ?

วันนี้ (13 พ.ย.68) ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นัดประชุม แนวทางปฏิรูประบบราชการตำรวจ กรณี คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผบ.ตร.และตำรวจอีก 200 นาย นั้น

ล่าสุด น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ กล่วาถึงประเด็นที่ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร.อ้างถึงว่า นักข่าวใช้คำพาดหัวเกินจริง ที่ว่า “ตำรวจรับส่วยเว็บพนัน” เธอเองไม่เห็นว่า สื่อมวลชนจะพาดหัวผิดหรือสำนักข่าวเจ้าไหนจะเรียกเรตติ้ง เพราะว่าคู่กรณีที่มีวิวาทะกันและยังไม่มีข้อสรุปว่าตกลงบุคคลใดอยู่เบื้องหลังและลูกน้องใครเกี่ยวใครไม่เกี่ยว

ช่อ พรรณิการ์ ย้ำด้วยว่า สิ่งที่นำมาพูดคุยกันในวันนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เปิดเผยสาธารณะและข้อมูลที่ตำรวจเองมีอยู่ในมือ คือ มีตำรวจรับส่วยเว็บพนันจริง เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร หรือลูกน้องใครยังไม่ยุติเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่านักข่าวไม่ได้จับประเด็นผิดแต่อย่างใด

ต่อมาอีกประเด็นคืออยากให้เวลากับสำนักงาน ปปง. กับป.ป.ช. ถ้าประธานกมธจะกรุณา เรื่องสำคัญกว่าการจัดการเว็บพนันเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือกระทั่งตำรวจ ดิฉันไม่สนใจว่าลูกน้องใคร แต่ต้องการทราบว่า กรรมาธิการจะอำนวยความสะดวกให้ สำนักงาน ป.ป.ช. กับปปง. โดยรวบรัดตัดตอนไปที่การดำเนินงานว่า กรรมาธิการจะช่วยให้เรื่องนี้ดำเนินการให้เร็วขึ้นได้อยางไร

ด้าน นายรอมฎอน ปันจอร์ หนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ตนอยากให้ผู้ชี้แจงกล่าวถึงประเด็นมีเส้นเงินระบุไปถึงบัญชีเงินเดือนของตำรวจเลยนั้นถือว่า น่าตกใจมาก ! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเหมือนย่ามใจมาก จึงอยากให้ท่านประธานเรียนถามทั้ง 2 ท่านเกี่ยวกับเส้นเงินที่ระบุตรงไปที่ PCT 4 โดยตรง

ถัดมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองจเรตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีดังกล่าว อันดับแรกชาร์ตที่เป็นเส้นเงินแล้วอ้างว่า เชื่อมโยงกับตำรวจรับส่วยเว็บพนันนั้น ในส่วนของ นาย “จ.” คือ นายจตุพลหรือจตุพรซึ่งเป็นคนเดียวกัน แล้วเส้นเงินนี้ก็โยงไปที่ตรำวจ 3 นาย ซึ่งเป็นของ PCT 3 ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ใช่ของตำรวจ PCT 4 และบิ๊กโจ๊กก็กล่าวหาว่าเป็น PCT 3

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร อธิบายต่อว่า พอขยายผลมาถึงตัว “นาย จ.” ซึ่งเป็นบัญชีม้า ผู้ต้องหาจึงหลบหนี ทำให้เอาข้อมูลจาก นายจ.ได้ แต่ข้อมูลสันนิษฐานจากชุดสืบสวนในเวลานั้น นายจ.น่าจะเป็นบัญชีม้าของ PCT 4 และมีการตัดตอนตัวนายจ. บิ๊กโจ๊กจึงระบุต่อว่า ปัจจุบันเลยไม่ทราบว่า ใครอุ้มนายจ.ไปไหน แต่ทราบว่าพิกัดสุดท้ามีรายงานไปอยู่ประเทศเพือนบ้าน

ถึงตรงนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ จึงเน้นย้ำอีกครั้งว่า ประเด็นนายจ.ที่ สส.รอมฎอน ตั้งข้อสงสัยนั้น ! ในที่สุดเส้นเงินไปที่ตำรวจสามคน ไม่ใช่ถูกตัดตอนแน่นอน

ไตรรงค์ สุรเชชษฐ์
แฟ้มภาพ @ไทยรัฐ

เรื่องเหมือนจะจบ แต่จู่ๆ รองผบ.ตร.ยังคุกรุ่น “ช่อ พรรณิการ์”

ตัดภาพมาที่ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร.ที่ตอนแรกได้โอกาสกล่าวตำหนิสื่อมวลชนกรณีพาดหัวตำรวจรับส่วยทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสินความผิดว่าจริงหรือไม่ แต่ฝั่ง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ปรึกษากมธ. แย้งว่าประเด็นนี้เธอมองต่างว่านักข่าวไม่ได้จับประเด็นผิด

ด้วยเหตุนี้ พล.ต.อ.กรไชย ขออนุญาตกล่าวในมุมของตนว่า “ตำรวจรับส่วยมีไหม ผมไม่ปฏิเสธแล้วก็ไม่รับ”

ตนกล่าวตรงๆ แบบนี้เพราะคดีนี้ยังไม่ได้ตัดสินเลยว่า ตำรวจรับส่วย ต้องรอในที่สุดศาลตัดสิน ถ้าผิดว่าตามผิด-ถูกว่าตามถูก ใครที่ทำความเสียหายให้วงการตำรวจ ตนย้ำเลยว่าจะอยู่ไม่ได้ ตนไม่เลี้ยงคนแบบนี้แน่ ไปถามพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้เลยตนเป็นอย่างไร ดังนั้นที่คุณพรรณิการ์อ้างมานั้น ตนขอพูดแบบนี้แล้วกัน ตนแค่รักษาเกียรตนเท่านั้นเพราะตนมีเกียรติ

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ชี้แจงกลับไปยังรองผบ.ตร.คนปัจจุบันว่า เรื่องข้อกล่าวหาตำรวจรับส่วยนั้น คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านออกมายอมรับแล้วว่า มีคนในสำนักงาตร.รับจริง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจไม่รับส่วย 99 % ฉะนั้น 1 เปอร์เซนต์นั้นก็ต้องรับ ! จบวิวาทะตรงนี้ นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานฯ จึงเปิดโอกาสให้ ปปง.ได้กล่าวชี้แจงเป็นลำดับถัดไปในที่ประชุม.

ช่อประชุมกมธ
แฟ้มภาพ
เกรียงไกรคล้ายคลึง
แฟ้มภาพ @ถ่ายทอดสดประชุมกมธ.ความมั่นคงฯ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button