ข่าวกีฬา

เสี่ยโบ๊ท เล่าปม อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกเมาปลิ้น ที่แท้ป่วย ? วอนรัฐช่วยด่วน

เสี่ยโบ๊ท เล่าปม อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกเมาปลิ้น ป่วยจิตเวช โปรโมเตอร์มวยไทยชื่อดังวอนรัฐบาลช่วยด่วน ประกาศลั่นยอมออกค่ารักษาทั้งหมด

จากกรณี อำนาจ รื่นเริง อดีตนักมวยแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย วัย 45 ปี ไปโผล่พฤติกรรมเมาปลิ้นก่อนก่อเหตุก่อกวนผู้คนในร้านสะดวกซื้อกระทั่งมีคลิปฉาวสิ้นลายกำปั้นดีกรีเข็มขัดแชมป์สถาบันหมัดโลก โดยต่อมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจนสอบถามถึงปมเหตุอันใดทำให้ อดีตนักกีฬารายนี้ตกอับขนาดที่ลงไปกองด้วยน้ำมือของวัยรุ่นในพื้นที่

เจ้าของค่ายมวย เพชรยินดี อะคาเดมี่ เล่าผ่านคลิแปวิดีโอเฟซบุ๊ก @Yindeeman’s Talk โดยเริ่มย้อนไปถึงปมเหตุที่แท้จริงจนอำนาจ รื่นเริง ต้องตกมาอยู่ในสภาพดังกล่าวเพราะหลักๆ เลย คือ เจ้าตัวเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชที่ “อาการทรุดหนัก” ซึ่งเป็นผลมาจากการดื่มสุราเพื่อลืมปัญหาครอบครัว

เสี่ยโบ๊ทยืนยันว่า ได้เคยช่วยเหลือและพาเข้ารับการบำบัดมาแล้ว แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากขาดคนดูแลที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องออกมาเป็นกระบอกเสียงให้อีกคำรบ โดยฝากวิงวอนตลอดจนขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาดูแลรักษาอดีตฮีโร่ชาติเป็นการด่วน โดยในส่วนของเจ้าของค่ายมวยเงินล้านเองนั้นยังลั่นวาจาเสริมหนักแน่นอีกว่า ตัวเองพร้อมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับอดีตกำปั้นแชมป์โลก หากมีใครสามารถพาอำนาจไปบำบัดและหยุดเหล้าได้

ภาพ @

ทั้งนี้ วีรบุรุษกำปั้นของคนไทยเคยมีค่าตัวสูงถึง 10 ล้านบาทจากการชกกับ ซูชิหมิง ที่มาเก๊า และถือเป็นยอดมวยไทยเบอร์ 1 ในวงการกีฬา ยามได้รับเหรียญรางวัลผู้คนต่างชื่นชมยินดี แต่ปัจจุบันเขาตกต่ำ ไม่มีใครในชีวิตแล้ว

“พื้นฐานความจริงคือ พี่เพชรเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช จิตใจ สมอง และความคิดของเขาไม่ปกติแล้ว สาเหตุหลักของปัญหาคือ เรื่องครอบครัว โดยพี่เพชรมีปัญหาครอบครัวและแยกทางกับภรรยามาประมาณ 2 ปี ทำให้เขาใจสลายและเกิดอาการหลอน เขาพยายามลืมเรื่องภรรยาด้วยการดื่มเหล้าอย่างหนัก ซึ่งเป็นทางออกเดียวที่เขาคิดได้ การดื่มเหล้าแบบไม่หลับไม่นอนเพื่อลืมความทุกข์ ทำให้เขาไม่มีสติและทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง”

ภาพ @Facebook
ภาพ @Facebook

ในการเปิดเผยเที่ยวล่าสุดนี้ ทำให้ทราบอีกว่า อำนาจ เคยมาขอสมัครงานที่ค่าย “เสี่ยโบ๊ท” ซึ่งฝ่ายหลังก็ช่วยโอนเงินค่าอาหารและค่าใช้จ่ายให้หลายครั้ง เนื่องจากเห็นใจที่ไม่มีเงินทานข้าว ก่อนให้โอกาสสุดท้าย คือการรับทำงานเป็นครูมวย-เทรนเนอร์ ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ข้อตกลงที่สำคัญที่สุด คือต้องเลิกดื่มเหล้า อย่างไรก็ตามรับปากได้เพียง 2-4 วัน อดีตนักมวยชื่อดังก็กลับไปดื่มเหล้าอีกตามเคยจนมีอาการหลอน (เช่น คิดว่ามีคนจะมาฆ่า มาทำร้าย)

สภาวะช่วงนั้น เสี่ยโบ๊ทยืนกรานเองเลยว่า อำนาจ รื่นเริง ดื่มสุราชนิดหัวราน้ำ ไม่นอน มีความทุกข์ใจ และเป็นโรคซึมเศร้า ทุกอย่างรวมกันหมด

เท่านั้นไม่พอ สถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อเกิดเหตุเมาและถือมีดไล่ฟันคนในค่าย เสี่ยโบ๊ทจึงไม่รอช้า ตัดสินใจให้เทรนเนอร์และนักมวยจับตัวส่งโรงพยาบาล เสี่ยโบ๊ทต้องพูดคุยเจรจาอย่างหนัก เพราะพี่เพชรไม่ยอมไปโรงพยาบาล โดยย้ำว่าการรักษาตัวเองให้หายและการบำบัดคือทางเดียวที่จะช่วยเขาได้

สุดท้าย พี่เพชรถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเป็นเวลา 20 วัน ค่ารักษาทั้งหมดผู้พูดเป็นผู้ออกให้ทุกบาททุกสตางค์ ผลการตรวจยืนยันว่า ไม่มีการใช้ยาเสพติด (ตรวจปัสสาวะและเลือดแล้ว) หลังจากหยุดเหล้า 20 วันในรพ. ร่างกายเริ่มฟื้น เมื่อออกจากรพ.ถูกแนะนำให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมก่อนที่จะกลับมาทำงาน แต่หลังจากกลับไปถึงบ้านก็อีหรอบเดิม คือ เมามายหนักอีก

“พี่เพชรน่าสงสารเพราะเขาขาดครอบครัวและขาดคนที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือชี้ทางให้ การให้เงินเขาไปก็จะนำไปซื้อเหล้า แม้ว่าผู้พูดจะยังให้เงินเขาอยู่ 2-3 ครั้งที่เขาโทร.มา ในช่วง 4-5 เดือนหลังเสี่ยโบ๊ทไม่สามารถติดต่อพี่เพชรได้ และทราบข่าวล่าสุดว่าเขาจำใครไม่ได้แล้ว แม้แต่เพื่อนสนิท คลิปที่ปรากฏเป็นข่าวล่าสุดเกิดขึ้นที่พัทยา และไม่ทราบว่าปัจจุบันใครเป็นคนดูแลอยู่”

“สิ่งที่น่าหดหู่คือเพจต่างๆ นำเสนอข่าวในทำนองว่าเขาเมาและทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งเป็นการซ้ำเติมโดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ผู้คนตำหนิและซ้ำเติมเขา เสี่ยโบ๊ทวิงวอนขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมมวยสมัครเล่น, กกท., หรือกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลเขา หากปล่อยไว้แบบนี้ ผู้พูดเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอจะเห็นพี่เพชรเป็นศพอยู่ข้างถนนอย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ เสี่ยโบ๊ท บนวัย 37 ปี เชื่อลึกๆ ว่า ปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากที่อยากช่วยเหลือ อำนาจ รื่นเริง แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรหรือหาวิธีใดเป็นทางออกให้พ้นจากนรกขุมนี้ สุดท้ายจึงอยากให้หน่วยงานหรือสถานพยาบาลหลักๆ รับอดีตกำปั้นตกอับเข้าไปหยุดพิษสุราเรื้อรังนี้ให้ได้จริงๆ จังๆ เพื่อจะได้กลับมาเป็นนคนใหม่และเดินหน้าหาโอกาสใหม่ในชีวิตได้อย่างราบรื่น ไม่ใช่ตกอยู่ในวังวนเลวร้ายเช่นในเวลานี้.

ภาพ @Facebook

อ่านข่าวเพิ่มเติมประจำวัน วงการกีฬาไทยน่าสนใจ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button