ไข้หวัดใหญ่ระบาดญี่ปุ่น ต้นเหตุคร่า ‘ต้าเอส’ ป่วยพุ่ง 3.1 แสนคน เป็นประวัติการณ์
dimsumdaily รายงาน การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบสาธารณสุขทั่วประเทศ ทำให้โรงพยาบาลล้นเกินขีดความสามารถ ขาดแคลนเวชภัณฑ์ และมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น รวมถึงกรณีการเสียชีวิตของนักแสดงชาวไต้หวัน บาร์บี้ ซู วัย 48 ปี จากภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ ยิ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของสถานการณ์นี้
ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2024 ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รายใหม่กว่า 317,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่า 3 เท่าของปีที่แล้ว ค่าเฉลี่ยของผู้ป่วยต่อสถานพยาบาลอยู่ที่ 64 ราย เป็นระดับที่สูงสุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ และมีถึง 43 ใน 47 จังหวัดของญี่ปุ่นที่เกินระดับเตือนภัย โดยเฉพาะจังหวัดโออิตะที่มีอัตราผู้ป่วยสูงถึง 104 รายต่อสถานพยาบาล
ดร. มัตสึยามะ มาซาฮารุ ประธานสมาคมการแพทย์จังหวัดโอกายามะ ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้โรงพยาบาลต่างๆ ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติจากการที่จำนวนผู้ป่วยล้นเกินขีดจำกัดของระบบสาธารณสุข ขณะเดียวกัน บริษัทยารายใหญ่หลายแห่งได้ประกาศระงับการจัดส่งยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสสำคัญชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อปริมาณยาที่ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศ
มีรายงานว่าเด็กอย่างน้อย 7 คนในโตเกียวและชิซูโอกะเสียชีวิตจากภาวะสมองอักเสบจากไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นภาวะหายากแต่รุนแรงที่อาจทำให้หมดสติและเกิดอาการชักรุนแรงได้ ผู้ปกครองรายหนึ่งในชิซูโอกะเล่าว่าลูกของตนมีอาการเพียง 24 ชั่วโมงก่อนเสียชีวิต สะท้อนถึงความร้ายแรงของเชื้อไวรัสในครั้งนี้
ดร. เหลียง จื้อเชา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจจากฮ่องกง เตือนว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น รวมถึงการเสียชีวิตของบาร์บี้ ซู ควรเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายของไข้หวัดใหญ่ที่ไม่ควรถูกมองข้าม
“การที่ไข้หวัดใหญ่ถูกมองว่าเป็นเพียงโรคเล็กน้อยเป็นเรื่องที่อันตราย” ดร. เหลียงกล่าว “แม้ว่าบาร์บี้ ซู อาจมีภาวะสุขภาพที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน แต่ตอนนี้มีผู้ใหญ่และเด็กสุขภาพดีหลายรายที่ป่วยหนักและเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น ไวรัสนี้ไม่ปรานีใคร”
หลังจากที่ญี่ปุ่นดำเนินมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวดเป็นเวลาสองปี การหยุดชะงักของการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ทำให้ภูมิคุ้มกันของประชากรลดลง ส่งผลให้ปีนี้ประชากรญี่ปุ่นมีความอ่อนแอต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเดินทางระหว่างประเทศที่กลับมาเป็นปกติและมาตรการป้องกันที่ผ่อนคลาย เช่น การยกเลิกข้อแนะนำให้สวมหน้ากาก ทำให้ไข้หวัดใหญ่กลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ญี่ปุ่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดทั่วโลก
“สัญญาณเตือนมีมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่การประเมินความเสี่ยงของไข้หวัดใหญ่ต่ำเกินไป” ดร. เหลียงกล่าว “ญี่ปุ่นอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งใหม่ที่อาจลุกลามไปทั่วโลก เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป”
สำหรับชาวฮ่องกง ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นชั่วคราว แม้ว่าข้อเสนอด้านการท่องเที่ยวและการช็อปปิ้งจะดึงดูดใจ เนื่องจากขณะนี้ฮ่องกงมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รุนแรงเพียง 18 รายในกลุ่มผู้ใหญ่ที่อายุน้อย แต่ตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหากมาตรการป้องกันถูกละเลย ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มนี้แล้ว 4 ราย โรงเรียนในฮ่องกงเริ่มดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ในอดีต ความชะล่าใจเกี่ยวกับ COVID-19 ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงทั่วโลก ครั้งนี้ประชาคมโลกต้องตระหนักถึงความร้ายแรงของไข้หวัดใหญ่ก่อนที่จะสายเกินไป
ขณะนี้ ประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่เพิ่มสูงขึ้น การรณรงค์ฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันจำเป็นต้องถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจ การเดินทางควรถูกจำกัดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเด็กเล็ก จำเป็นต้องได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
การเฝ้าระวังที่เข้มงวด การแบ่งปันข้อมูลอย่างโปร่งใสระหว่างประเทศ และการลงทุนในระบบสาธารณสุขจะต้องไม่ถูกละเลยอีกต่อไป เพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่จำเป็นจากไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจร้ายแรงพอๆ กับโรคระบาดอื่นๆ
สัญญาณเตือนจากญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องรับมืออย่างจริงจัง วิกฤตครั้งนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ มาตรการเข้มงวดต้องถูกดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โพสต์สุดท้าย ต้าเอส ก่อนเสียชีวิตในวัย 48 ปี ด้วยภาวะปอดอักเสบ
- ไข้หวัดใหญ่ระบาด กทม. เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ป่วยสะสมพุ่งเกือบ 80,000
- โรคปริศนาระบาด คองโกตายพุ่ง 79 ศพ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ยังไม่รู้สาเหตุ