การเงิน

ข่าวปลอม! สินเชื่อเพื่อธุรกิจ จาก 3 ธนาคารรัฐบาล

จากที่มีการเผยแพร่ของข้อมูลที่ว่า มีการเปิด สินเชื่อเพื่อธุรกิจ จาก 3 ธนาคารรัฐบาล (กรุงไทย, ออมสิน และธอส.) วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

(24 มิ.ย. 2565) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินในสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นเรื่อง สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ให้กู้ยืมวงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนโดย ธ. กรุงไทย ธ. ออมสิน และธอส. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารกรุงไทย, ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการเผยแพร่รูปภาพในสื่อเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ให้กู้ยืมวงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ได้รับการสนับสนุนโดย ธ. กรุงไทย ธ. ออมสิน และธอส. ทางธนาคารกรุงไทย,ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ ว่าทั้ง 3 ธนาคาร สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ให้กู้ยืมวงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท และมีการแอบอ้างนำโลโก้ของธนาคารไปใช้ให้ประชาชนเกิดความสับสน โดยธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้หากพบ SMS อีเมล หรือ LINE ที่มีลิงก์แอบอ้างเป็นธนาคาร หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งผ่าน Facebook Fanpage Krungthai Care และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ,ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กระทรวงการคลัง ได้ที่เว็บไซต์ www.ghbank.co.th โทร 0-2645-9000 และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์และ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากธนาคารออมสิน กระทรวงการคลังได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th เฟซบุ๊ก GSB society หรือโทร 1115

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารทั้ง 3 แห่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่แอบอ้างแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการแอบอ้างใช้โลโก้ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง

 

แหล่งที่มาของข่าว : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button