‘หนุ่ม กรรชัย’ เคลียร์ดราม่าพาดพิงว่า หากินกับข่าวเด็ก หลังถูกร้อง กสทช. พร้อมตั้งคำถามกลับ “นอนกอดกฎหมายสุดท้ายหาเด็กเจอไหม ?”
เรียกได้ว่าสะเทือนวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้ สำหรับข่าวของพิธีกรชื่อดัง ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย‘ จากรายการ ‘โหนกระแส‘ ที่ถูก อาจารย์ท่านหนึ่ง ร้องเรียนไปที่ กสทช. กับประเด็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของสื่อมวลชน และอาจขัดต่อมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 หลังจากที่นำเสนอข่าวของเด็กวัย 11 ขวบ ที่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน
ล่าสุด (12 ม.ค.) ทางพิธีกรชื่อดังก็ได้ออกมาเคลียร์ดราม่าดังกล่าวผ่านรายการ ‘แฉ‘ โดยระบุว่า
บริบทที่มันเกิดขึ้นมันเริ่มจากการที่ว่า มีครอบครัวหนึ่ง คุณย่า มาร้องขอความเป็นธรรมจากตนเอง ต้องการจะตามตัวหลานที่หายไป ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นจาก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกเด็กที่อายุ 11 ปีอยู่กับพ่อและแม่ แต่วันหนึ่งพ่อกับแม่ของเด็กได้เลิกรากันประมาณ 2 ปี ด้านคุณแม่ของเด็กได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นและมีสามีใหม่ แต่ทุกเดือนแม่กับสามีใหม่จะกลับมาเยี่ยมลูกของฝ่ายหญิงที่อยู่กับพ่อแท้ ๆ และคุณย่า
โดยมีอยู่วันหนึ่ง พ่อเลี้ยงได้มาหาคนเดียว แล้วมาหลอกเด็กไปล่วงละเมิดทางเพศจากนั้นนำมาส่งที่บ้าน ซึ่งตอนแรกคุณย่าเห็นเด็กเลือดออกเยอะ แต่คิดว่าหลานอาจจะมีประจำเดือนเลยไม่ได้ถามอะไร ปรากฏว่า ตกดึกหลานเดินแล้วล้มไป เลยไปถามหลานโดนอะไรมา
ทาง หลาน ตอบว่า “โดนพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ” จึงโทรไปบอกแม่ของเด็ก แต่แม่ของเด็กไม่เชื่อและตอนเช้าแม่ของเด็กก็มารับลูกบอกว่าจะพาไปหาหมอ ตอนแรกฝ่ายแม่ก็รับสายตามปกติ แต่หลังจากนั้นแม่ก็ปิดโทรศัพท์และหนีไปพร้อมกับสามีใหม่ จนคุณย่าและพ่อแท้ ๆ ของเด็กได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คดีไม่คืบ จึงมาร้องทางตนให้ช่วยตามหาตัวพ่อเลี้ยง
ก่อนที่จะทำรายการตนก็ได้มีการไปปรึกษาจิตวิทยาเด็ก 2-3 คน, อัยการ 2-3 คน รวมไปถึงทนายความ ซึ่งท่านก็บอกว่าทำได้ เนื่องจากเป็นเหตุเร่งด่วน เด็กอยู่ในภัยอันตราย จึงทำรายการถึงเรื่องดังกล่าวผ่ายรายการ โหนกระแส ซึ่งในรายการได้มีการเชิญทนายความ จิตแพทย์เด็ก รวมถึงย่าของเด็ก
ตอนแรกตนก็ได้ถามย่าว่า “ใส่โหม่งไหม ?” ก็ได้คำตอบว่า “แค่ใส่หน้ากากอนามัยอันเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว เพราะมันหายใจไม่ได้” ย่าโอเคที่จะใส่หน้ากากอนามัยเปิดหน้าแบบนี้ รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องของเด็กด้วยเหมือนกัน
ยืนยันในรายการไม่ได้มีการเปิดหน้าเด็ก แต่เปิดหน้าตัวพ่อเลี้ยง พร้อมยืนยันว่าที่ทำไปไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก เพียงแต่ต่ต้องการช่วยเด็ก ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 5 วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับตัวพ่อเลี้ยงได้
ส่วนเรื่องที่ถูกร้องก็ยินดีที่จะไปชี้แจงกับทาง กสทช. พร้อมเข้าใจที่อาจารย์คนดังกล่าวไปร้องเพราะทำเพื่อสังคม แต่ในมุมของตนเพียงแค่ต้องการช่วยเหลือคนเหมือนกัน ไม่ได้ช่วยในหน้าที่ของสื่อ แต่ช่วยเด็กครั้งนี้ในฐานะที่ผมเป็นคน พร้อมตั้งคำถามกลับ “นอนกอดกฎหมายสุดท้ายหาเด็กเจอไหม ?”
รับชมรายการ แฉ ประจำวันที่ 12 มกราคม 2565 แบบเต็ม ๆ คลิก!