เทคโนโลยี

สรุป รีวิว iPhone 13 Pro วางขาย 8 ตุลา ที่สุดของมือถือโปรขณะนี้ เริ่มต้น 38K

สรุป รีวิว iPhone 13 Pro ความทรงพลังที่สุด ณ ตอนนี้ มือถือสุดโปร จบงานได้ในเครื่องเดียว เตรียมวางขาย 8 ตุลาคม ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท

ชั่วโมงนี้ต้องให้เขาจริง ๆ กับความสนใจของทุกคนที่พุ่งเป้าไปยัง Apple Event ที่เพิ่งเปิดตัว iPhone 13 series iPad และ Apple Watch เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย กับสเปคที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงและพูดถึงในวงกว้างว่า มันแตกต่างจากของเดิมอย่างไร Apple ใส่อะไรเพิ่มเข้ามา ชวนคุณมาจบทุกคำถาม เอาให้รู้กันไปเลยชัด ๆ กับ สรุป รีวิว iPhone 13 Pro

ดีไซน์คุ้นตา มองไม่มองจนกว่าจะได้ใช้จริง

การออกแบบ iPhone 13 Pro ยังคงไม่แตกต่างจาก iPhone Pro Series รุ่นก่อน ๆ เท่าใดนัก นั่นหมายความว่าดีไซน์ของ iPhone 12/12 Pro และ iPhone 13/13Pro แทบจะเป็นแฝดสี่กันเลยทีเดียวถ้าหากว่าปิดส่วนของกล้องไว้ ส่วนที่แตกต่างจากเดิม (เล็กน้อย) เห็นทีคงจะเป็นเรื่องของฟีเจอร์ที่เพิ่มมามากกว่า เพราะขนาดของตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 7.65 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 203 กรัม ไม่ได้หนักเบาหนาบางจนรู้สึกได้ขนาดนั้นจนกว่าจะได้ลองใช้งาน ครั้งนี้ iPhone 13 Pro มาพร้อม 4 สี

  • สีฟ้า Sierra Blue
  • สีเงิน Silver
  • สีทอง Gold
  • สีดำ Graphite

ยังคงกันน้ำและฝุ่นดีเยี่ยมเหมือนเคย

มาตรฐานในการกันน้ำและกันฝุ่นยังคงเหมือนกับ iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ มาตรฐานระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำลึกที่ระดับ 6 เมตรได้นานถึง 30 นาที ยังไม่พอวัสดุของตัวเครื่องทำจาก Ceramic Shield ที่แข็งแกร่ง เพิ่มความทนทานไปอีกชั้น สแตนเลสสตีลระดับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม ความทนของเขาเรียกได้ว่าไปสุดทางจริง ๆ

iPhone 13 Pro กระจก Ceramic shield
ภาพจาก: apple.com

iPhone 13 Pro มีมากกว่า 1 โปร

หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว จอภาพ OLED มาพร้อมกับเทคโนโลยี ProMotion ซึ่งเป็นการทำงานดึงข้อมูลได้สูงสุดที่ 120Hz ไหลลื่นแบบฉุดไม่อยู่ จะไถจอท่องโลกอินเทอร์เน็ตหรือเล่นเกมภาพกราฟิกเน้น ๆ คุณก็เพลิดเพลินต่อเนื่อง ไม่มีคำว่า “หน่วง” มาขัดจังหวะแน่นอน ความละเอียดจอภาพอยู่ที่ 2532×1170 พิกเซล พร้อมขอบเขตสีกว้าง (P3) แสดงผลสี True Tone ให้ทั้งเม็ดสีแน่น ๆ และความเป็นธรรมชาติ สามารถปรับค่าความสว่างได้ถึง 1,000 นิต และปรับได้สูงสุดถึง 1,200 นิต

iPhone 13 Pro การทำงานแบบไม่มีใครล้มได้

ที่สุดของชิปเซตในตอนนี้

ชิปเซตประมวลผล A15 Bionic ที่เร็วแรงสุดในสมาร์ตโฟนจาก Apple ขณะนี้ ทำงานไวด้วย CPU 6-core ซึ่งดูแลทั้งประสิทธิภาพในการทำงานและการประหยัดพลังงาน GPU 5-core ดูแลเรื่องการใช้พลังงาน การระบายความร้อนของเครื่อง กราฟิกโหลดไวขึ้น 50% ช่วยให้การทำงานของกล้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น และดูแลความเป็นส่วนตัวของคุณอีกด้วย

พื้นที่เก็บที่ยิ่งกว่าคำว่ามหาศาล

สามารถเก็บได้เยอะกว่าที่สมาร์ตโฟนเครื่องไหนเคยทำได้ กับพื้นที่ความจำที่ติดมากับตัวเครื่องสูงสุดถึง 1TB นี่สิ Pro ของจริง

แบตเตอรี่ที่มาพร้อมกับคำว่าอึด

แบตเตอรี่ลิเธียมไออนที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย สามารถซื้อ MagSafe มาติดกับตัวเครื่องเพื่อช่วยให้การชาร์จไร้สายทำได้ไวขึ้นได้ และชาร์จไวได้เร็วถึง 50% ภายใน 30 นาที iPhone 13 ใช้งานได้นานกว่ารุ่นก่อน ๆ ถึง 1.5 ชั่วโมง พร้อมรองรับการทำกิจกรรมของคุณตลอดวัน

  • เล่นวิดีโอต่อเนื่องสูงสุด 22 ชั่วโมง
  • เว่นวิดีโอออนไลน์ต่อเนื่องสูงสุด 20 ชั่วโมง
  • เล่นเสียงต่อเนื่องสูงสุด 75 ชั่วโมง

กล้องนูนขึ้น พร้อมความเก่งกาจที่มากขึ้น

ด้วยการทำงานของชิป A15 Bionic และเลนส์กล้องที่อัปเกรดขึ้น เห็นได้ชัด ๆ จากความนูนของตัวกล้องที่มากขึ้นนั่นเอง มาพร้อมกันกับ 3 เลนส์ อย่างที่มีใน iPhone Pro Series รุ่นก่อน

  • Ultra Wide Camera
  • Wide Camera
  • Telephoto
  • LiDAR Scanner

ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกันทุกเลนส์ และกล้องหน้า TrueDepth สำหรับเซลฟี่และปลดล็อก Face ID ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเช่นเดิม

iPhone 13 Pro กล้องสามเลนส์ นูนขึ้น
ภาพจาก: apple.com

ความสามารถของกล้อง iPhone 13 Pro เต็มสิบไม่มีหัก

ลงลึกไปกับ Deep Fusion

เทคโนโยลี Deep Fusion จะช่วยจัดการวัตถุและควบคุมสิ่งรบกวนที่เกิดในภาพได้แบบลงรายละเอียด แม้แต่มุมมืดของภาพคุณก็จะเห็นลวดลายที่ถูกแสงบดบัง ส่วนที่ดำของภาพก็ไม่ดำสนิทไปเฉย ๆ แต่จะค่อย ๆ ไล่ระดับแสงอย่างเป็นธรรมชาติ

ลงลึกไม่พอ ลงเล็กได้ด้วย

กล้อง Ultra Wide สามารถถ่ายภาพมาโครได้ที่ระยะใกล้สุด 2 เซนติเมตร ความสามารถเกินเหตุจนคุณแปลกใจว่านี่กล้องมือถือหรือกล้องจุลทรรศน์กันแน่

คุมได้ทุกช็อต การสั่นไหวจึงไม่เกิด

มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ช่วยปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์

Night Mode ทำได้ทุกเลนส์

ถ่ายได้หมดทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ความสามารถที่เก่งกาจด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่าเดิมและ LiDAR ตัวสแกนเนอร์ที่จะมาช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยทำได้สวยงามยิ่งขึ้น

สร้างโมเมนต์ของคุณด้วยภาพ Portrait

ด้วยโหมด Portrait ถ่ายภาพบุคคลและเบลอฉากหลังเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้คนในภาพ พร้อมเอฟเฟกต์มากถึง 6 แบบ

ไฟล์ภาพ ProRAW

Apple ProRAW เป็นไฟล์ภาพต้นฉบับที่มีความละเอียดสูงมาก ช่วยได้เยอะเมื่อต้องมีการปรับแต่งรูปภาพ

iPhone 13 Pro สร้างภาพยนตร์ได้!

ต้องขอเขียนแยกหัวหน่อยมาเด่น ๆ หน่อย เพราะนี่คือความสามารถระดับภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นแล้วในมือคุณ กับ Cinematic Mode โหมดถ่ายวิดีโอแบบภาพยนตร์ กดเปลี่ยนจุดโฟกัสได้เพียงปลายนิ้วของคุณ และยังรองรับ HDR แบบ Dolby Vision อีกด้วย เพิ่มความเป็นมืออาชีพในการถ่ายและการเล่าเรื่องได้สมคำว่า PRO จริง ๆ

และเขากำลังจะปล่อยฟีเจอร์ช่วยเรื่องการตัดต่อ ProRes เพื่อจบโปรเจกต์ของคุณได้ในสมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก ซึ่งยังคงต้องติดตามกันต่อไป

iPhone 13 Pro Cinematic Mode
ภาพจาก: apple.com

แน่นอนว่า iPhone 13 Pro รองรับ 5G

รองรับการก้าวเข้าสู่ยุค 5G ที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ทั้งการสตรีมออนไลน์ การเล่นเกม หรือการดาวน์โหลด ก็ทำได้รวดเร็ว และสำหรับใครที่กังวลว่าการใช้ 5G จะทำให้แบตเตอรี่ไหล ใช้งานได้สั้นลงก็ไม่ต้องห่วง เพราะโหมดข้อมูลอัจฉริยะของ iPhone 13 Pro จะช่วยปรับลดความเร็วให้คุณอัตโนมัติหากคุณไม่ได้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ 5G เพื่อช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่

ราคา

สำหรับราคาเปิดตัวของ iPhone 13 Pro ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 38,900 บาท ซึ่งทาง Apple จะเปิดให้สั่งจองได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และวางจำหน่ายจริงในวันที่ 8 ตุลาคม 2564 อีกไม่นานเกินรอ

สามารถเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Apple Thailand

ช่องทางซื้อออนไลน์ iPhone 13 Pro

สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิกที่นี่

อ้างอิงจาก: apple.com

Thaiger deals

Lalita C.

นักเขียนคอนเทนต์ SEO แห่งทีมไทยเกอร์ไทย คลุกคลีกับการเขียนตั้งแต่สมัยเรียน ชอบการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ติดตามข่าวสารจากโลกออนไลน์ นำมาสรุป เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย ผ่านมุมมองน่าสนใจที่คนมักจะมองข้าม ทั้งข่าวบันเทิง บทความ งานเขียนแนวไลฟ์สไตล์ รวมถึงทุกอย่างที่อยากให้นักอ่านได้รู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button