เศรษฐกิจ

ธอส. สานต่อโครงการ บ้านล้านหลัง เฟส 2 เริ่ม 10 ก.ย. นี้

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทำการดำเนินการต่อเนื่องกับโครงการ บ้านล้านหลัง เฟส 2 ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99%/ปี เริ่มเปิดให้ลงทะเบียน 10 ก.ย. 2564 ผ่าน GHB All

ครม.เห็นชอบให้ ธอส. สานต่อโครงการ บ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 (เฟส 2) ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี เงินงวดคงที่นานถึง 84 งวดแรก ดีเดย์ศุกร์ที่ 10 ก.ย.นี้ ลงทะเบียนผ่านแอป GHB ALL เพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) สานต่อ “โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เริ่มต้นทำงานสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี ให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. เงินงวดคงที่งวดละ 5,000 บาท นานถึง 84 งวดแรก (กรณีกู้ 1.2 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี)

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (7 กันยายน 2564) มีมติเห็นชอบให้ ธอส. สานต่อ “โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2)” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ หลังจากที่คณะกรรมการธนาคาร นำโดย นายยุทธนา หยิมการุณ ประธานกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว

เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น

ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและผ่อนปรนเงื่อนไข สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรกเท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 5-7 เท่ากับ MRR -2% ต่อปี และปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา

กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR -0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR -1% ต่อปี

และกรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก ( 7 ปี ) กรณีกู้ 1,200,000 บาท ผ่อนชำระงวดละ 5,000 บาท ในช่วง 84 งวดแรก ให้กู้เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุด ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด

พิเศษ!! ธอส. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการมีบ้านให้กับลูกค้าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ประเภท ประกอบด้วย

  1. ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้)
  2. ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท)
  3. ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย)
  4. ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเอง ธอส. จึงได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ ธนาคารยังเปิดให้นำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ

และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ให้ธนาคารพิจารณาได้ ให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ

เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัส 9 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว) เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ

 

แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button