พรีเมียร์ลีก

อาเดรียนแตก! ไฮไลท์ เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล : เอฟเอคัพ – กิลมอร์แหล่ม, บาร์คลีย์หล่อ

อาเดรียนแตก! ไฮไลท์ เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล : เอฟเอคัพ รอบ 5 – กิลมอร์แหล่ม, บาร์คลีย์หล่อ : เอฟเอคัพ อังกฤษ รอบ 5 ไฮไลท์เอฟเอคัพเมื่อคืนนี้ ไฮไลท์ เชลซี ลิเวอร์พูล เอฟเอคัพ

ไฮไลท์ เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล – เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 มีนาคม) เวลา 02.45 น. การแข่งขันฟุตบอลถ้วย เอมิเรตส์ เอฟเอคัพ อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2019-2020 รอบที่ 5 เกมบิ๊กแมตช์พบกันเองระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง “สิงห์บลสู์” เชลซี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจ้าของตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • เชลซี: (GK) เกป้า, อัซปิลิกวยต้า, รูดิเกอร์, ซูม่า, อลอนโซ่, กิลมอร์, โควาซิช, บาร์คลีย์, วิลเลี่ยน, เปโดร และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
  • ลิเวอร์พูล: (GK) อาเดรียน, วิลเลี่ยมส์, ฟาน ไดจค์, โกเมซ, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ลัลลาน่า, โจนส์, มินามิโนะ, มาเน่ และ ดิว็อค โอริกี้

Embed from Getty Images

“สิงห์บลูส์” ภายใต้การคุมทีมของ “ซูเปอร์แฟรงค์” แฟรงค์ แลมพาร์ด วันนี้จัดผู้เล่นตัวจริงผสมดาวรุ่งเล็กน้อย โดยให้โอกาสของ บิลลี่ กิลมอร์ มิดฟิลด์สก็อตติชวัย 18 ปี ลงสนามในฐานะกองกลางตัวรับ ส่วนเกมรุกส่งทั้ง วิลเลี่ยน เปโดร และยังไว้วางใจให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าร่างยักษ์ชาวฝรั่งเศส ล่าตาข่าย

ขณะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งพบกับความผิดหวังในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ วันนี้ กุนซือเฮฟวี่เมทัล พักผู้เล่นอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ รวมถึงยังส่งผู้เล่นดาวรุ่ง-สำรองหลายตำแหน่งลงสนามเป็นสิบเอ็ดตัวจริง แต่ยังมี เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวหลัก

เริ่มเกมมาแค่ 3 นาทีเท่านั้น อดัม ลัลลาน่า หลุดเข้ามาสุดเส้นหลังทางฝั่งซ้าย ก่อนยกบอลข้ามมาถึง ซาดิโอ มาเน่ ได้พักแล้วแต่งยิงด้วยซ้าย เกป้า ยังป้องกันเอาไว้ได้ หงส์ได้ทักทายก่อน

นาทีที่ 12 วิลเลี่ยน ได้บอลส้มหล่นโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวง้างเต็มข้อซัด นึกว่าจะหายวาบเข้าประตูไปแล้ว แต่ อาเดรียน ยังเซฟเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เชลซี ทักทาย ทีมเยือน ได้อย่างน่ากลัว

GOAL! นาทีที่ 13 จุดเริ่มต้นจากความผิดพลาดของ ฟาบินโญ่ ที่ไปจับบอลยาวหน้ากรอบเขตโทษตัวเองจนโดนฉกไปได้ สุดท้าย วิลเลี่ยน คนเดิมได้ซัด บอลแรงจัดทะลุซอง อาเดรียน เข้าประตูไปเลย นายทวารมือสองหงส์แดง น่าจะทำได้ดีกว่านี้ สิงห์บลูส์ ขึ้นนำ 1-0

อาเดรียน แตกหนึ่ง

Embed from Getty Images

Embed from Getty Images

นาทีที่ 17 เจ้าบ้าน ได้ฟรีคิกระยะน่ารักน่าลุ้น โดยคนยิงไม่ใช่ใครที่ไหน มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยเท้าซ้าย เลยคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น สกอร์ยังอยู่ที่ 1-0

นาทีที่ 21 หงส์แดง น่าได้ประตูสุดๆ จากจังหวะนัวหน้าประตูของ เชลซีมาเน่ หาบอลเจอได้ยิงไปติดเซฟของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า กระดอนมาเข้าทางของ ดิว็อค โอริกี้ ได้ซัดอีกหนก็ยังติดมือ เกป้า อีก คราวนี้กระดอนมาเข้าทาง เคอร์ติส โจนส์ ซัดเปรี้ยงก็ยังไม่เข้าประตู – เกป้า โชว์เซฟ 3 จังหวะติด!

นาทีที่ 31 ซาดิโอ มาเน่ โชว์ทักษะส่วนตัวเลื้อยเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ เกป้า ยังบล็อคไว้ได้ สุดท้ายบอลมาเข้าทาง วิลเลี่ยมส์ ได้ซ้ำแต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไร กลิ่นเริ่มไม่ดีแล้ว สำหรับ “เดอะ ค็อป”

Embed from Getty Images

ช่วงท้ายครึ่งแรก มาเตโอ โควาซิช มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเอา เมสัน เมาท์ ลงมาแทน สุดท้ายหมดเวลา 45 นาที เชลซี เป็นฝ่ายออกนำ ลิเวอร์พูล ไปก่อน 1-0 ต้องไปว่ากันใหม่ในช่วงครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ 5 นาที วิลเลี่ยน มาเจ็บเพิ่มอีกหนึ่งหน่อ จอร์จินโญ่ ต้องลงสนามมาแทน

Embed from Getty Images

นาทีที่ 62 จากจังหวะที่ ฟาบินโญ่ ไปทำฟาล์วใส่ เมสัน เมาท์ เจ้าตัวลุกขึ้นมาซัดฟรีคิกเองบอลชนคาน!

GOAL! นาทีที่ 64 เชลซี ได้สวนกลับมาจากแดนตัวเองแล้วเป็น รอสส์ บาร์คลีย์ ลากบอลมาเองคนเดียวแบบสบายใจเฉิบ สุดท้ายง้างยิงด้วยขวาเสียบเสาเข้าประตูไป สิงโตน้ำเงินคราม 2-0 หงส์แดง

นาทีที่ 67 จังหวะคล้ายลูกสองไม่มีผิดเพี้ยน เปโดร ขโมยบอลมาได้แล้วเลี้ยงหน้าตั้งหลุดไปคนเดียวโล่งๆ สุดท้ายได้ยิงแต่ดันยิงไม่ดีไปติดขาของ อาเดรียน จังหวะนี้น่าเสียดายสุดๆ

โล่งจริงๆ…

นาทีที่ 74 เจ้าบ้าน เกือบฝังเป็น 3-1 จากจังหวะที่ อัซปิลิกวยต้า วางบอลโคตรแม่นให้ ชิรูด์ สปริ้นท์ไปเอาในกรอบเขตโทษ สุดท้าย ชิรูด์ หาจังหวะยิงได้ไปติดมือ อาเดรียน ชนคานหวุดหวิด!

ช่วงเวลาที่เหลือ หงส์แดง ก็พยายามจะทวงประตูคืน แม้ คล็อปป์ จะส่งทั้ง เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนามมา แต่ก็ไม่เป็นผล หมดเวลา 90 นาที “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ “จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก” อย่าง ลิเวอร์พูล 2-0 ทะลุเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ

*ลิเวอร์พูล 4 นัดหลังสุดแพ้ไปถึง 3 นัด ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของพวกเขาในซีซั่นนี้*

บิลลี่ กิลมอร์ คว้ารางวัล MOTM หลังโชว์ผลงานป่วน หงส์ ซะไปไม่เป็น

https://www.facebook.com/ChelseaFC/photos/pb.86037497258.-2207520000../10158374018277259/?type=3&theater

ภาพจาก Twitter @ChelseaFC, SOFASCORE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button