หลังจากปล่อยให้แฟนบอลชาวไทยลุ้นกันอยู่นานสองนาน ล่าสุด “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก Muangthong United FC. ว่า ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายกัปตัน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โยกซบ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ด้วยสัญญาถาวร เรียบร้อยแล้ว
โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เจ้าของตำแหน่งแชมป์ เมจิยาซูดะ เจลีก ฤดูกาลล่าสุด บรรลุข้อตกลงคว้า ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลทันทีในปี 2020 ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้เล่นสัญชาติไทยคนที่สองที่ได้รับสัญญาถาวรในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่น
สื่อหลายสำนัก รายงานตรงกันว่า ค่าตัวของ “อุ้ม” จะอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านบาท พร้อมรับค่าเหนื่อยราวๆ 1 ล้าน 2 แสนบาทต่อเดือน หากตัวเลขดังกล่าวเป็นของจริง ธีราทร บุญมาทัน จะกลายเป็นนักเตะสัญชาติไทย ที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ทันที
เมืองทอง ยูไนเต็ด เผยในคำแถลงการณ์ดังกล่าวว่า “ดีลนี้ถือเป็นอีกนิมิตหมายอันดีของวงการฟุตบอลไทย เนื่องจากเป็นอีกครั้งที่ เมืองทอง เปิดโอกาสให้ผู้เล่นชั้นนำของประเทศได้ย้ายทีมไปหาประสบการณ์ในลีกที่มีมาตรฐานสูง หลังจากก่อนหน้านี้ก็ได้ทำสัญญาซื้อ-ขายนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปเล่นที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กับ โอเอช ลูเวิน ใน เบลเยียม”
ภาพจาก The Standard
“โก๋อุ้ม” เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ ราชประชา ในปี 2551 ก่อนย้ายไปสร้างชื่อกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2552-2559 ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจครั้งสำคัญย้ายซบ “กิเลนผยอง” ด้วยค่าตัว 30 ล้านบาท ในปี 2559 ท่ามกลางกระแสดราม่ามากมายจากแฟนบอลฟุตบอลชาวไทยในขณะนั้น
อย่างไรก็ดี ธีราทร พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือ “ของจริง” พา เมืองทองฯ คว้าแชมป์ ไทยลีก รวมถึง ลีกคัพ ก่อนถูก วิสเซล โกเบ ทีมดังจาก เมจิยาซูดะ เจลีก ยืมตัวไปเล่นเคียงข้างกับ ลูคัส โพโดลสกี้ อดีตผู้เล่นของ อาร์เซนอล รวมถึง อันเดรียส อิเนียสต้า ตำนาน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในปี 2018
หลังสิ้นสุดสัญญากับ โกเบ ธีราทร บุญมาทัน สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง ด้วยการย้ายไปร่วมทีม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในปี 2019 ก่อนช่วยทีมขึ้นมาเถลิงแชมป์ เจลีก อย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีโอกาสลิ้มรสถ้วยลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น
https://www.facebook.com/yokohamaf.marinosEN/photos/a.1592230697703193/2457124711213783/?type=3&theater
ขอบคุณข้อมูลจาก Muangthong United FC
