ข่าวธุรกิจเศรษฐกิจ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยการจดทะเบียนธุรกิจ ก.ย.62 ธุรกิจก่อสร้างฮิตสุด

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยการจดทะเบียนธุรกิจ ก.ย.62 ธุรกิจก่อสร้างฮิตสุด

ข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงาน การจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนกันยายน 2562 และ ไตรมาส 3/2562

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนกันยายน 2562 และไตรมาส 3/2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกันยายน

– จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนกันยายน 2562 จำนวน 6,954 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 5,973 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 981 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,313 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 641 ราย คิดเป็นร้อยละ 10

– ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 669 ราย คิดเป็น ร้อยละ 10 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 391 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 239 ราย คิดเป็นร้อยละ 3

– มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,315 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 17,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 11,143 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 48,027 ล้านบาท ลดลงจำนวน 19,712 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41

– ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 5,035 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.40 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,789 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.73 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.48 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 27 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.39

ธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาส 3/2562

– จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ไตรมาส 3/2562 (ก.ค.-ก.ย.) จำนวน 19,386 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 (เม.ย.-มิ.ย.) จำนวน 17,472 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,914 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 18,723 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 663 ราย คิดเป็นร้อยละ 4

– ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,812 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,065 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 622 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ

– มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,353 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส2/2562 จำนวน 65,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,988 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 97,614 ล้านบาท ลดลงจำนวน 29,261 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30

– ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 13,993 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.18 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 5,008 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.83 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 328 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.69 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.30

– ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 57,608 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 56,271 ราย โดยเพิ่มขึ้น จำนวน 1,337 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 186,109 ล้านบาท ลดลง 54,377 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 240,486 ล้านบาท

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนกันยายน

– จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,938 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 1,755 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 1,899 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 39 ราย คิดเป็นร้อยละ 2

– ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 158 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 127 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 44 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ

– มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,361 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 28,933 ล้านบาท ลดลงจำนวน 13,572 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 8,806 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า

– ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,395 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 446 ราย คิดเป็นร้อยละ 23.01 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 88 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.54 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการไตรมาส 3/2562

– จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 5,287 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 3,379 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,908 ราย คิดเป็นร้อยละ 56 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 5,327 ราย ลดลงจำนวน 40 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.8 ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจในช่วงปลายปี

– ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 456 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 323 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 131 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ

– มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,573 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 12,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 40,232 ล้านบาท คิดเป็น 3.2 เท่า และเมื่อเทียบกับ ไตรมาส 3/2561 จำนวน 22,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 29,580 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า

– ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 3,700 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,305 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.68 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 250 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.73 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 32 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.61

– ธุรกิจเลิกสะสม จำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 11,954 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 338 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 11,616 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 62 มีจำนวน 74,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,588 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ย. 61) จำนวน 62,321 ล้านบาท

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกันยายน

– ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 ก.ย. 62) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน743,073 ราย มูลค่าทุน 18 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 183,862 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.74 บริษัทจำกัด จำนวน 557,955 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.09 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,256 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ

– ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 440,101 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.23 รวมมูลค่าทุน 0.39 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.17 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 217,186 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.23 รวมมูลค่าทุน 0.71 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.94 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 70,444 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.48 รวมมูลค่าทุน 1.91 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.61 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,342 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.06 รวมมูลค่าทุน 14.99 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.28 ตามลำดับ

แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ

เมื่อประเมินจากสถานการณ์การจดทะเบียนและสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้ง ตามฤดูกาล (seasonal trend) จึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (ไตรมาส 4 ปี 2562) จะใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มการจดทะเบียนในไตรมาสสุดท้ายของปีลดลงตามแนวโน้มฤดูกาลในช่วงสิ้นปี

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว

เดือนกันยายน

– เดือนกันยายน 2562 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 48 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 18 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 30 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 17,594 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 15 ราย เงินลงทุนกว่า 15,410 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 7 ราย เงินลงทุน 307 ล้านบาท และจีน 6 ราย เงินลงทุน 718 ล้านบาท

– การเปรียบเทียบการลงทุนรายเดือน เมื่อเปรียบเทียบการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติในเดือนกันยายน กับเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนลดลง 1 ราย หรือร้อยละ 2 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 1,276 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7

ไตรมาส 3/2562

– เดือนมกราคม -กันยายน 2562 คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 448 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 101,579 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ลดลง 106 ราย (19%) ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 28,680 ล้านบาท (39%) เนื่องจากใน ปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบ
ธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือสำหรับผลิตและเก็บปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เป็นต้น

ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button