3 นัดถลุง 14 เม็ด ! ไฮไลท์ แมนซิตี้ บุกพัง เอฟเวอร์ตัน คาบ้าน 3-1, ตามหลัง ลิเวอร์พูล 5 แต้มเท่าเดิม

Maestro WPเผยแพร่: 29 ก.ย. 2562 02:02 น.| อัปเดต: 29 ก.ย. 2562 02:07 น.

95 1 minute read

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นัดที่เจ็ด)
วันเสาร์ที่ 28 ก.ย. 62
เอฟเวอร์ตัน 1-3 แมนซิตี้

การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่า เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเป็นทางฝั่ง เรือใบสีฟ้า บุกมาเอาชนะได้ 1-3 จากประตูของ เฆซุส, มาห์เรซ และ สเตอร์ลิง

เจ้าบ้านภายใต้การนำทัพของ มาร์โก้ ซิลวา เกมนี้มาในระบบ 4-2-3-1 โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมี กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน สนับสนุนเป็นจอมทัพ ขนาบข้างโดย ธีโอ วัลค็อตส์ และ ริชาร์ริซอน

ทางฝั่งทีมเยือน เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาดิโอลาร์ มาในระบบ 4-3-3 กาเบรียล เฆซุส ได้ออกสตาร์ทก่อน กุน อเกวโร่ ร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และ ริยาด มาห์เรซ ในสามผสานแนวรุก

📊 Everton’s 8 shots on target is the most Man City have faced in Pep Guardiola’s 121 PL games in charge pic.twitter.com/sfheDwxcKL

— Sky Sports Statto (@SkySportsStatto) September 28, 2019

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 7 นาที เอฟเวอร์ตัน ต้องเปลี่ยนตัวเลยเพราะ วัลคอตต์ โดนบอลเตะอัดหัว แพทย์เข้ามาเช็คอาการแล้วเล่นต่อไม่ได้เลยต้องลงเปลเปลี่ยนตัวออก เอาอิโวบี้ลงมาแทน

นาที 12 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูนำเข้าแล้ว เมื่อ มาห์เรซ เปิดจากขวาเข้าไปโดนสกัดกลับมาเข้าทางมาห์เรซคราวนี้ได้ลองจ่ายไซด์ก้อยมาหน้าประตู จบด้วยกุนโดกานสอดมาชาร์จจ่อๆแต่บอลชนคานอย่างจัง

GOAL !!! แมนฯ ซิตี้ บุกกลับมาก็เอาประตูนำได้เลยเริ่มจาก มาห์เรซ พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนฝากมาที่เดอ บรอยน์ ตามด้วยครอสเข้าเขตโทษมาสวยให้ เฆซุส โหม่งจ่อ ๆ บอลกระดอนพื้นผ่าน พิคฟอร์ด เข้าประตู ซิตี้ออกนำแล้ว 1-0

https://streamable.com/rtsyc

นาที 29 เรือใบ โต้กลับดีมีลุ้นประตูสองจากที่ เดอ บรอยน์ กลางสนามรับบอลมาแล้วจ่ายต่อให้ สเตอร์ลิ่ง ซ้ายมือ ก่อนจะครอสข้ามมาทางขวาให้ มาห์เรซ ควบมาพักอกได้สุดท้ายสับไกในเขตโทษตรงตัว พิคฟอร์ด

GOAL !!! นาที 33 เจ้าบ้านก็มาตามตีเสมอสำเร็จ เป็นจังหวะที่โยนเข้าเขตโทษแล้ว แมนฯ ซิตี้ สกัดไม่ขาดเข้าทาง อิโวบี้ ก่อนจะโดนรุมจนเสียบอล แต่ก็ยังเข้าทาง โคลแมน ชิพข้าม เอแดร์ซอน มาได้สุดท้าย เลวินตามโหม่งเข้าไปสุดท้า ยเลวินได้เครดิตเป็นคนยิง เอฟเวอร์ตันไล่มาเป็น 1-1

https://streamable.com/v1eif

มาถึงนาที 41 ช่วงท้ายครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน เกือบได้โอกาสที่ดีอีกครั้ง หลังใช้บอลวางยาวเข้าเขตโทษแล้วซิกเกิร์ดสันสอดไปไม่ล้ำหน้าพยายามกระโดดเกี่ยวบอลแต่มันย้อนหลังก็เลยอดยิง และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

มาถึงครึ่งหลังนาที 54 เอฟเวอร์ตัน เกือบที่จะได้ประตูออกนำเข้าให้ กับจังหวะลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาแล้วถึงหัว มีน่า ยืนโหม่งบอลกระดอนพื้นแต่ เอแดร์ซอน ปัดข้ามคานทัน

GOAL !!! นาที 71 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะลูกยิงฟรีคิกของ ริยาด มาห์เรซ ปั่นอ้อมกำแพงไม่แฉลบใคร จอร์แดน พิคฟอร์ต พุ่งไม่ทันบอลเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม

https://www.clippituser.tv/c/apgalm

นาที 73 เรือใบ ยังได้ลุ้นต่อเนื่อง เซร์คิโอ้ อเกวโร่ รับบอลมาจาก แฟร์นันดินโญ่ ก่อนเลือกเลี้ยงลุยเองขึ้นหน้าหลอก ฟาเบียน เดฟฟ์ เสียเหลี่ยมก่อนเลือกง้างเท้ายิงเองแต่บอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 75 เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน จิ้มหลุดให้ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ดวลเดี่ยว ๆ กับ เอเมอร์ซอน พยายามตวัดบอลแต่ไม่คมพอบวกกับ เอเมอร์ซอน ออกมาเร็วเลยขวางบอลเอาไว้ได้

นาที 78 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูตีเสมอต่อเนื่องจากจังหวะ เยอร์รี่ มิน่า เทคตัวโขกลูกเตะมุมแต่ เอเดอร์ซอน พุ่งปัดเอาไว้ได้อีกครั้ง

GOAL !!! นาที 84 เรือใบ ทิ้งห่างไปเป็น 1-3 จากจังหวะ อเกวโร่ พาบอลมาเองจากกลางสนามแล้วไหลออกข้างให้ มาห์เรซ ล็อคหนึ่งจังหวะแล้วจ่ายไหลหลังให้ อเกวโร่ ที่วิ่งอ้อมเติมขึ้นไปก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าปากประตูไปติดขา จอร์แดน พิคฟอร์ค มาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง วอลเลย์โล่ง ๆ บอลชนคานเด้งข้ามเส้นเข้าไป

https://www.clippituser.tv/c/zeqvwq

หมดเวลา 90 นาที เป็นทางด้าน เรือใบสีฟ้า บุกมายัดเยียดความปราชัยให้ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน 3-1 โดยยังคงรั้งอยู่อันดับ 2 มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงอยู่ 5 แต้มเช่นเดิม

FULL-TIME | That was not easy! 😅

24' ⚽️ @gabrieljesus33
71' ⚽️ @Mahrez22
84' ⚽️ @sterling7

🍬 1-3 🔵 #EVEMCI #ManCity pic.twitter.com/z7mPIjEO5s

— Manchester City (@ManCity) September 28, 2019