
โอ๊ต วรวุฒิ จำใจขายที่ดิน-คอนโด-รถ ใช้หนี้ พยุงโรงแรมที่บุรีรัมย์ เปิดใจชีวิตพ่อเลี้ยงเดี่ยวฟูลไทม์ ยอมเลิกปาร์ตี้ งานแสดงหายเกลี้ยง ทุ่มเวลาดูแลลูกชาย
เปิดชีวิตเบื้องหลัง โอ๊ต วรวุฒิ นิยมทรัพย์ ดาวร้ายวัยเก๋าและผู้จัดละคร ออกมาเปิดใจถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตเกี่ยวกับการบริหารทรัพย์สินและบทบาทการเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวแบบเต็มเวลาเพื่อดูแลลูกชายทั้งสองคน น้องโอลาฟและน้องโอเลิฟ ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ผ่านช่องยูทูป WorkpointOfficial เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา
โอ๊ต วรวุฒิ ต้องการขายทรัพย์สินที่มีอยู่หลายแปลงเพื่อนำเงินไปโปะภาระที่เป็นหนี้ รวมถึงนำไปใช้หนี้ธนาคารที่ใช้ลงทุนสร้างโรงแรมที่บุรีรัมย์ พร้อมเปิดเผยว่าความจำเป็นในการขายทรัพย์สินเกิดจากภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องภาษีที่ดินในแต่ละปีที่สูงมาก รวมถึงภาระในการจ้างคนดูแลและบำรุงรักษา
สำหรับที่ดินในชะอำ มีทั้งหมด 4 แปลง โดยหนึ่งแปลงมีขนาด 3 ไร่ พร้อมบ่อน้ำและกำลังจะปลูกต้นไม้ ที่ดินเหล่านี้มีทั้งที่อยู่ฝั่งใกล้ทะเล 3 แปลง และฟากภูเขา 1 แปลง ตั้งอยู่ใกล้ถนนเพชรเกษมเพียง 1.5 กม. ใกล้ตัวเมืองชะอำและทะเล โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
ส่วนที่ดินที่เขาใหญ่ มีจำนวน 1 ไร่ บริเวณหมูสี ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำบ้านพักตากอากาศ
หนุ่มโอ๊ต เผยว่า ที่ดินทุกแปลงที่ขายนั้นซื้อเก็บไว้เป็น 10 ปีแล้ว และได้รับคัดสรรมาอย่างดี มีถนนหนทาง น้ำ ไฟ สะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อไว้ลงทุนหรือทำธุรกิจในอนาคต
สาเหตุสำคัญของการขายทรัพย์สินทั้งหมด คือ การนำเงินไปพยุงธุรกิจโรงแรมที่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ให้ลูก

เจ้าตัวเป็นคนเพชรบุรีและชะอำ แต่เลือกไปทำโรงแรม The REX ที่บุรีรัมย์ เนื่องจากเป็นช่วงที่มอเตอร์สปอร์ต สนามแข่งรถและสนามฟุตบอลกำลังเติบโต อีกทั้งเขาชอบขี่มอเตอร์ไซค์และชอบที่ดินสวยจึงซื้อที่ดินแปลงหนึ่งไว้ในตัวเมืองใกล้สนามแข่งรถ
โรงแรมของตนเป็นโรงแรมบูติกขนาด 45 ห้อง ในช่วงแรกของการก่อสร้างและการบริหารงาน เขาประสบปัญหาหลายอย่าง ทั้งโดนผู้รับเหมาโกง และโดนผู้บริหารที่จ้างมาโกงถึง 2 เจ้า ทำให้เขาท้อแท้จนคิดจะขาย
ก่อนหน้านี้เขาทยอยขายทีัพย์สินที่มีเพื่อนำมาดำเนินกิจการ ทั้งรถยนต์, บ้านเดี่ยว และ คอนโด
เมื่อปรึกษาลูก ๆ แล้วไม่ต้องการให้ขายและอยากเก็บโรงแรมไว้ ดังนั้นโอ๊ตจึงตัดสินใจขายทรัพย์สินอื่นเกือบทั้งหมดเพื่อนำเงินมากอบกู้โรงแรมแห่งนี้ไว้ที่เดียว ปัจจุบันโรงแรมสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว

ชีวิตส่วนตัวของโอ๊ตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ตัดสินใจเลี้ยงลูกเอง 100% และเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวแบบฟลูไทม์ อาศัยอยู่กับลูกชายสองคนในคอนโดห้องเล็ก ๆ ซึ่งการมีลูกทำให้ตนกลายเป็นคนดีขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่เป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตแบบเพลย์บอยเที่ยวทุกคืน แต่ตอนนี้ความประพฤติสำมะเลเทเมาลดลงจนแทบไม่มี ทุกวันนี้เขาประหยัดมาก และไม่ได้มองในเรื่องของตัวเองเลย
โอ๊ตดูแลลูกทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยไม่มีพี่เลี้ยงตั้ง ซึ่งรูทีนประจำวันคือ ทำอาหารเช้าให้ลูก แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งลูกที่โรงเรียน ตนเชื่อว่าเด็กสมัยนี้ฉลาดและรับความจริงได้ เขาเปิดเผยความจริงกับลูกทุกเรื่อง ไม่เคยปิดบังอะไร อีกทั้งเขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูก โดยประกาศว่าในบ้าน ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน และลูกสองคนสามารถโหวตชนะพ่อได้
โอ๊ตมองว่าชีวิต คือ การแลกเปลี่ยน เขาต้องยอมเสียสละทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อลูก เขาให้ความสำคัญกับการมอบความรักที่ไม่ลดทอนแม้จะแยกทางกับอดีตภรรยา และยังคงนอนกอดลูกชายทั้งสองคนทุกคืน โดยมีโอลาฟนอนแขนซ้าย และโอลีฟนอนแขนขวาพร้อมเน้นย้ำว่าชีวิตนี้เขาเทให้ลูก 100% และไม่มีอะไรเป็นของตัวเองอีกแล้ว
ส่วนเรื่องงานในวงการนั้นหายแทบหมด แต่ช่วงนั้นเขาดูแลทั้งธุรกิจและลูก ๆ ทั้งสอง จึงตัดสินใจทิ้งงานแสสงไปช่วงเวลาหนึ่งเพื่อรอลูกโต จากนั้นค่อยกลับมารับงานอีกครั้ง
ทั้งนี้ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวมีเป้าหมายสูงสุด คือ การเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีให้ลูกมีพื้นฐานจิตใจที่ดี และสามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต แม้ว่าวันหนึ่งจะไม่มีเขาอยู่คอยบอกก็ตาม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นานา เคลียร์ชัด ปมจ่ายค่าเทอมลูกล่วงหน้ายันจบ ย้ำทุกวันนี้ก้มหน้าหาเงินใช้หนี้
- เดอะมีน โพสต์สำนึกผิด ขายของ-ขอโอกาสทำงานใช้หนี้ เรื่องเข้าสู่ขั้นตอนกฎหมายแล้ว
- อุทาหรณ์ เป็นหนี้ Shopee 3 แสน โดนฟ้องจริง แนะอย่าหนี-ไปศาลขอไกล่เกลี่ย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





