ทุกอย่างไปกับน้ำหมด “สส.ลิซ่า” เคลื่อนไหวล่าสุด วอนกรมสุขภาพจิตทำงานเชิงรุก !
ภคมน หนุนอนันต์ สส.พรรคประชาชน ลงพื้นที่ต่อเนื่องช่วยผู้ประสบภัยภาคใต้ ล่าสุดเผยชัดทราบดีทุกปัญหาสำคัญและใหญ่เท่ากันหมด แต่ขอวิงวอนกรมสุขภาพจิต เร่งปูพรมทำงานเชิงลุก หลังรับฟังปัญหาทุกข์ใจหนักคนที่ทุกอย่างถูกซัดไปกับน้ำ หลายคนอยู่ในภาวะ “โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง”
วันที่ 1 ธ.ค. 2568 สส.ลิซ่า ภคมน หนุนอนันต์ เปิดเผยเนื้อหาร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง @lisapukkamon โดยระบุถึงปัญหาของพี่น้องผู้ประสบภัยทางใต้ ณ ขณะนี้บ้านก็ต้องซ่อม จิตใจก็ต้องฟื้นฟู โดยเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ตั้งแต่วันที่เริ่มท่วมจนน้ำลด สส.ลิซ่าย้ำชัดเจนอีกครั้งในวันนี้ว่า ทุกเรื่องใหญ่และสำคัญหมดต้องรีบจัดการ ตลอดการอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่ในครั้งนี้บอกตรงๆ เธอเองกับทีมงานก็ไม่เข้มแข็งและเชื่อว่า คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครเข้มแข็ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองอ่อนแอในระดับไหน
ลิซ่า ภคมน อ้างต่อว่า เธอได้มีโอกาสคุยกับหมอ “โรงพยาบาลสงขลานครินทร์” คุณหมอบอกว่า ความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ “ความเสียหายทางจิตใจ ที่อยากให้เร่งเยียวยาและฟื้นฟู” ขณะนี้พี่น้องประชาชนจำนวนมากเกิดภาวะ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) หรือ “โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง”
หลายคนเริ่มมีอาการ “ภาพจำหลอน” แค่ได้ยินเสียงฝนตกนิดเดียวก็ใจสั่น ผวา นอนไม่หลับ หรือหวาดกลัวการกลับเข้าไปในบ้านตัวเอง อาการเหล่านี้คือบาดแผลทางใจที่เกิดจากการเผชิญวินาทีเฉียดตายหรือสูญเสียอย่างกะทันหัน ซึ่งหากปล่อยไว้นานเกิน 1 เดือนโดยไม่ได้รับการเยียวยา มันจะกลายเป็นปมถาวรที่รักษายาก
“ขอร้องเลย!!!!! ว่ากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ต้องสั่งการให้ หน่วย MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) ลงพื้นที่แบบเชิงรุก เพราะนี่คือทีมเฉพาะกิจด้านสุขภาพจิตที่จัดตั้งโดยกรมสุขภาพจิต มีหน้าที่ประเมิน ฟื้นฟู และดูแลผู้ประสบเหตุการณ์รุนแรงในระยะเร่งด่วน”
“หากรัฐไม่สั่งการ “เชิงรุก” ทำไปพร้อมกับการฟื้นฟูบ้านคนจำนวนมากจะถูกปล่อยให้แบกบาดแผลทางใจ นี่คือหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องมองภาพรวมให้ออกและบริหารทรัพยากรให้เป็น การกู้เมืองต้องทำควบคู่ไปกับ “กับการกอบกู้ใจ” อย่าปล่อยให้พี่น้องเราต้องเผชิญกับโลกแห่งความจริงที่โหดร้ายนี้เพียงลำพังค่ะ!”
“ตอนนี้เข้าใจว่าทุกเรื่องสำคัญและใหญ่หมด แต่อยากให้รัฐบาลมองเห็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนด้วย ดิฉันขอส่งเสียงแทนคนในพื้นที่และเป็นอีกประเด็นที่แพทย์ในพื้นที่กังวล”
“เชื่อเถอะ!! ในฐานะคนที่สัมผัสบรรยากาศความรู้สึกของผู้คนมาตั้งแต่ต้นจนวันนี้แต่ละวันกว่าจะผ่านไปไม่ง่ายเลย”.
ทั้งนี้ในวันเดียวกัน (1 ธ.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานการโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ตามมติ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 และวันที่ 18, 25 พ.ย. 68 ซึ่งจะช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยเป็นการจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 4 รูปแบบ ดังนี้ 1) ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 2) ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วันขึ้นไป 3) ที่อยู่อาศัยประจำที่ถูกน้ำล้อมรอบจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป และ 4) ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัย แต่ส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป
โดยในวันนี้ ธนาคารออมสินจะโอนเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้แก่ผู้ประสบภัยที่ได้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ รวมจำนวน 26,571 ครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดสงขลา (4,563 ครัวเรือน) สตูล (8,772 ครัวเรือน) และจังหวัดปัตตานี (13,236 ครัวเรือน) เป็นเงินทั้งสิ้น 239,139,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน ติดต่อธนาคารใดก็ได้ เพื่อดำเนินการผูกบัญชีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว





อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สส.ลิซ่า จบดราม่า ภราดร หยุดโต้ปมไม้กวาด ยิ่งพูดยิ่งเห็นปัญหา
- ไหนอธิบดีบอก ;ไม่ต้องถ่ายเอกสาร สรยุทธ โทรสายด่วน ได้คำตอบคนละเรื่อง
- สรยุทธถาม อธิบดีปภ.ตอบชัด เยียวยา 9000 ไม่ต้องถ่ายเอกสาร ยุ่งยาก!
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





