ข่าวกีฬาฟุตบอลฟุตบอลไทย

คณะวินัยฯ สั่งปรับเงิน “บีจี ปทุม-เมืองทอง” รวมเกือบ 4 แสน เซ่นเหตุวุ่นวายนัดชิง รีโว่ คัพ

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สั่งปรับเงิน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด รวมกว่า 4 แสนบาท จากเหตุความวุ่นวายในนัดชิง รีโว่ คัพ

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 13/2567 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการรีโว่ คัพ คู่ระหว่าง สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567

Advertisements
Credit : FA Thailand

ในการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าว เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน ดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1 ก่อนการแข่งขัน กองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด สวมชุดดำโบกธงเชียร์ รวมตัวกันจุดพลุแฟร์ บริเวณฝั่งอัฒจันทร์ โซน N

เหตุการณ์ที่ 2 ก่อนการแข่งขัน กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด บริเวณโซน S รวมกลุ่มกันร้องเพลงเชียร์ และจุดพลุแฟร์

เหตุการณ์ที่ 3 หลังจบการแข่งขันในช่วงพิธีมอบถ้วย กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ลักลอกนำพลุไฟเข้าไปบนอัฒจันทร์ฝั่งโซน S และจุดพลุแฟร์ปรากฏเป็นกลุ่มควัน และมีการยิงพลุวิถีโค้ง จากอัฒจันทร์ตกลงสู่สนาม และบริเวณรอบนอกสนามแข่งขัน

เหตุการณ์ที่ 4 หลังจบการแข่งขัน และเสร็จสิ้นพิธีมอบถ้วย มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด และกองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด บริเวณลานกิจกรรมโซน E มีการใช้วัสดุทำร้ายตอบโต้กันไปมา

Advertisements

เหตุการณ์ที่ 5 ในช่วงเวลา 21.00 น. หลังจบพิธีการมอบถ้วยภายในสนามแข่งขันแล้ว ได้รับแจ้งเหตุการณ์จากทีมงานรักษาความปลอดภัยว่ามีเหตุความเสียหายของรถกระบะ ของประชาชนที่จอดอยู่บริเวณพื้นที่ว่างด้านหลังอัฒจันทร์โซน N เกิดเหตุไฟไหม้เสียหายทั้งคันจากการจุดพลุแฟร์

 

– ผลพิจารณาโทษ

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้ประชุมเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 โดยได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน รายงานของฝ่ายจัดการแข่งขัน คำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แถลงการณ์จากตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมดูภาพและคลิปเหตุการณ์ประกอบกันแล้ว เห็นว่า

เหตุการณ์ที่ 1 และ เหตุการณ์ที่ 2

กองเชียร์ทั้งสองสโมสร มีการจุดพลุแฟร์ก่อนการแข่งขันนั้น เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน และการแข่งขันในนัดดังกล่าวเป็นรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดที่สำคัญ ทำให้เกิดภาพลบต่อการแข่งขันสำหรับประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ ลงโทษกองเชียร์สโมสรทั้งสองสโมสร มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงินสโมสรละ 60,000 บาท

เหตุการณ์ที่ 3

ในเวลาประมาณ 20.16 น. ในขณะที่มีการมอบถ้วยรางวัล และเหรียญรางวัลให้นักกีฬาทั้งสองทีม กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้จุดพลุแฟร์บนอัฒจันทร์ฝั่งโซน S ปรากฏเป็นกลุ่มควัน จำนวน 10-12 อัน และมีการยิงพลุวิถีโค้งจำนวน 4-5 อัน จากอัฒจันทร์ตกลงสู่สนาม และบริเวณรอบนอกสนามแข่งขัน โดยมีพลุตกในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมภายในสนามธรรมศาสตร์ สเตเดียม ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน และการแข่งขันในนัดดังกล่าวเป็นรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดที่สำคัญ ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ การกระทำดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ต่อวงการฟุตบอลไทย คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง ปรับเงิน 60,000 บาท และต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายของทรัพย์สินและสถานที่ที่เกิดขึ้นด้วย

เหตุการณ์ที่ 4

กองเชียร์ทั้งสองสโมสรก่อการทะเลาะวิวาทกันปรากฎคลิปบันทึกเหตุการณ์โดยทั้งสองฝ่ายพยายามจะเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ตอบโต้กันไปมา จึงเป็นกรณีกองเชียร์ก่อการทะเลาะวิวาทซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เป็นการทำร้ายร่างกายกันเพียงฝ่ายเดียว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษกองเชียร์ทั้งสองสโมสร มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.10 วรรคสาม ปรับเงินสโมสรละ 50,000 บาท

เหตุการณ์ที่ 5

จากการประสานข้อมูลร่วมกัน ระหว่างทีมรักษาความปลอดภัย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ และแถลงการณ์ตำรวจภูธรภาค 1 ที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนได้ข้อยุติว่า ผู้ก่อเหตุจุดพลุแฟร์จนทำให้เกิดความเสียหายกับรถกระบะประชาชนที่จอดอยู่บริเวณพื้นที่ด้านหลังอัฒจันทร์โซน N คือ กองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มาให้กำลังใจสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตามบทนิยามของกองเชียร์ที่ระบุไว้ในระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ โดยการจุดพลุของกองเชียร์คนดังกล่าวเป็นการกระทำการให้เกิดเพลิงไหม้ โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย หรือ การกระทำโดยประมาทนั้นอาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตหากมีคนอยู่บนรถที่เกิดเหตุ มีความผิดตามกฎหมายอาญา และการแข่งขันในนัดดังกล่าวเป็นรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดที่สำคัญ ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 120,000 บาท แต่เนื่องจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นและเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายแล้ว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษกองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง ปรับเงิน 80,000 บาท และเนื่องจากกองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เคยถูกลงโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ไปแล้วจากการกระทำผิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็นการกระทำความผิดซ้ำในข้อเดียวกัน ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันกระทำความผิดครั้งหลังสุด จึงพิจารณาเพิ่มโทษกองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท

สรุปแล้ว ทั้งสองทีมโทษปรับเงินรวมทั้งสิ้น 390,000 บาท แบ่งเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 220,000 บาท และ เมืองทอง ยูไนเต็ด 170,000 บาท

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button