การเงินเศรษฐกิจ

ทำงาน ‘วันแรงงาน’ ได้กี่แรง ลูกจ้างต้องรู้ อย่าทำงานฟรี

ตามกฎหมาย วันแรงงาน 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันหยุดของแรงงานภาคเอกชน ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างทุกคนมีสิทธิได้รับค่าจ้างแม้จะไม่ได้มาทำงานในวันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่ลูกจ้างอาจต้องทำงานในวันแรงงาน เนื่องจากนายจ้างสั่ง หรือมีภาระติดพันที่ทำให้ไม่สามารถหยุดได้ ซึ่งกฎหมายแรงงานกำหนดให้ลูกจ้างเหล่านี้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมดังนี้

1. ลูกจ้างรายเดือน หรือลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด

  • ได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 เท่า ของค่าจ้างตามชั่วโมงที่ทำงานเทียบกับวันทำงานปกติ
  • กรณีทำงานล่วงเวลาในวันแรงงาน จะได้รับค่าล่วงเวลา 3 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ

2. ลูกจ้างรายวัน หรือลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด

  • ได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของค่าจ้างในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงานเทียบกับวันปกติ
  • กรณีทำงานล่วงเวลาในวันแรงงาน จะได้รับค่าล่วงเวลา 3 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ

ตัวอย่างการคำนวณค่าแรง ทำงานวันแรงงาน

พนักงานประจำเงินเดือน 30,000 บาท ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

ในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันหยุด แต่พนักงานคนนี้ไต้องมาทำงานตามปกติ

พนักงานคนนี้จะได้รับค่าจ้างสำหรับวันแรงงาน 30,000 บาท / 30 วัน จากนั้นนำไป / 8 จะตกค่าแรงชั่วโมงละ  = 125 บาท รวมเป็น 1,000 บาท

กรณีพนักงานคนนี้ต้องทำงานล่วงเวลาในวันแรงงาน 2 ชั่วโมง

พนักงานคนนี้จะได้รับค่าล่วงเวลา 3 เท่า = 125 บาท/ชั่วโมง x 3 x 2 ชั่วโมง = 750 บาท

รวมค่าจ้างสำหรับวันแรงงานและค่าล่วงเวลา พนักงานคนนี้จะได้รับ 750 บาท + 1,000 บาท = 1,750 บาท

อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button