ข่าวต่างประเทศ

หญิงต้องคำสาป คลอดลูกเป็น “มนุษย์หมาป่า” คาดเป็นกรรม กินแมวตอนท้อง

โซเชียลฮือฮา แม่ยังสาว คลอดลูกขนดกเหมือนมนุษย์หมาป่า เชื่อว่าถูกต้องคำสาป หลังเคยกินแมวระหว่างอุ้มท้อง แพทย์รับเข้าช่วยเหลือ เฉลยความจริงว่าเป็นแค่โรคชนิดหนึ่ง มีทางรักษา

เมื่อใดที่มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับลูก ผู้เป็นพ่อแม่ย่อมเป็นคนที่เสียใจที่สุด ดังเช่นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุณแม่ยังลูกสามท่านหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหนึ่งในเด็กน้อยมีขนขึ้นตามตัวแบบผิดปกติ และนับวันขนก็มากขึ้นตามอายุ จนทำให้เด็กน้อยดูคล้ายกับ “มนุษย์หมาป่า”

เรื่องราวน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับหญิงชาวเมืองฟิลิปปินส์ เธอมีลูกชาย 2 คน และลูกสาว 1 คน โดยลูกชายคนที่สอง นามว่า จาเร็น กามองกัน (Jaren Gamongan) เกิดมาพร้อมกับมีขนดกผิดปกติ มีเคราสีดำและขนยาวบริเวณทั้งบนใบหน้า ลำคอ แผ่นหลัง และแขน และเมื่อเด็กน้อยโตขึ้นบรรดาขึ้นก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งวิธีเดียวที่ผู้เป็นเป็นแม่พอจะช่วยลูกชายได้ก็คือ การหมั่นอาบน้ำให้ลูกอยู่เสมอในช่วงฤดูร้อน และพยายามที่จะไม่ตัดขนให้เด็กน้อย เพราะยิ่งพยายามตัด ขนก็ยิ่งยาวและดกขึ้น

โรคมนุษย์หมาป่า
ภาพจาก : hk01

แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้เด็กชายต้องทนทุกข์ทรมานกับการมีขนดก แต่ทางแม่เชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่เธอถูกสาป เพราะครั้งหนึ่งในระหว่างที่ตั้งครรภ์ เธอได้รับประทานแมวป่าสีดำเข้าไป และนั่นก็ได้กลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิด “เรื่องไม่คาดคิด” กับลูกชาย ด้วยความที่เธอปักใจเชื่อเช่นนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณแม่จึงรู้สึกผิดและเสียใจกับความพลั้งพลาดในครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง

จวบจนกระทั่งลูกชายอายุครบ 2 ขวบ คุณแม่กังวลมากว่าลูกจะถูกรังแกเมื่อไปโรงเรียนจึงตัดสินใจพาลูกชายไปพบแพทย์ และ “ความจริง” ทั้งหมดจึงกระจ่าง ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้วินิจฉัยว่า แท้จริงแล้วลูกชายป่วยด้วยโรคหายากอย่าง โรคมนุษย์หมาป่า (Hypertrichosis หรือ Werewolf Syndrome) ที่พบได้เพียง 1 ในพันล้านคน และในปัจจุบันทั่วโลกพบเพียง 50-100 รายเท่านั้น

โรคมนุษย์หมาป่า
ภาพจาก : hk01

ก่อนจะชี้แจงเพิ่มเติมว่า แม้โรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถบรรเทาอาการผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ โดยจะทำการรักษาทั้งหมด 10 คอร์ส ภายในเวลา 4-6 สัปดาห์ และเนื่องด้วยการรักษาแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูงราว ๆ 1,600 บาท ซึ่งถือเป็นภาระหนักอึ้งสำหรับครอบครัวนี้ สุดท้ายจึงได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก

“ฉันรู้สึกขอบคุณมากกับคนที่คอยให้ความช่วยเหลือ หวังว่าลูกชายของฉันจะมีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากทุกคน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button