แม่เจ้าบ่าวชาวเกาหลีใส่ชุดอ่าวหญ่าย ร่วมงานแต่งงานคู่รักคนดังที่เวียดนาม 3 วัน 3 คืน ด้านชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ชื่นชม ยกให้เป็นแม่ที่แสนวิเศษ
ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ นอกจากความรักของคนสองคนแล้ว ครอบครัวของอีกฝ่ายก็มีผลเช่นกัน วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ข่าวเวียดนาม DANTRI รายงานว่า งานแต่งงานของคู่รักคู่หนึ่ง กำลังได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก
เรื่องราวเริ่มต้นจากหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คบหากันมานานกว่า 4 ปี และทั้งคู่เป็นเจ้าของช่อง TikTok ที่มีผู้ติดตามเกือบ 700,000 คน โดยคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ก็เป็นไลฟ์สไตล์ทั่วไปของคู่รัก และเนื่องจากฝ่ายหญิงเป็นชาวเวียดนาม ส่วนฝ่ายชายเป็นชาวเกาหลี เมื่อมาใช้ชีวิตในเวียดนามที่วัฒนธรรมแตกต่าง จึงได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
หลังจากคบหากันมานาน ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยจัดงานแต่งงานในเมืองห่าติ๋งห์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายหญิง ชาวเน็ตเมื่อทราบข่าวก็ต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่น่าประทับมากในงานแต่งครั้งนี้คือ แม่ชาวเกาหลีของเจ้าบ่าว
เจ้าสาวเปิดเผยว่า แม่สามีเกิดปี พ.ศ. 2507 เธอเป็นอดีตนักกายกรรม และนี่เป็นครั้งแรกที่แม่สามีได้ร่วมงานแต่งงานในเวียดนาม ที่จัดงาน 3 วัน 3 คืน ถึงกระนั้นแม่สามีก็ไม่ได้ตื่นตกใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งยังแสดงทักษะการเต้นรำในวันพิเศษของลูก
นอกจากนี้ แม่สามียังมีอัธยาศัยที่ดี เพราะเธอมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและสมาชิกในครอบครัว แม้จะไม่เข้าใจภาษาของกันและกัน อีกทั้งตอนที่ลูกสะใภ้ไม่ได้อยู่ด้วย แม่สามีก็เลือกที่จะใช้แอปพลิเคชันแปลภาษา หรือใช้ภาษากายในการสื่อสารกับญาติ ๆ ของเจ้าสาวแทน
ด้วยความน่ารักและอัธยาศัยดี พร้อมทักษะการเต้นที่ทำให้บรรยากาศงานแต่งสนุกสนานยิ่งขึ้น เมื่อหญิงสาวโพสต์คลิปวิดีโอลงโซเชียล ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่บอกว่า เป็นแม่สามีที่แสนวิเศษ และคลิปวิดีโอนั้นมียอดรับชมกว่า 2.2 ล้านครั้งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เจ้าสาวชาวเวียดนามออกมาเล่าเพิ่มเติมว่า ก่อนวันแต่งงาน คุณแม่ของเจ้าบ่าวตื่นเต้นมาก เธอลองใส่อ่าวหญ่ายหลายครั้ง และบอกว่าสบายตัวมากกว่าชุดฮันบก
เมื่อถึงช่วงพิธีแต่งงาน แม่เจ้าบ่าวก็บอกเธอว่า รู้สึกได้ถึงความรักที่ครอบครัวมีให้ต่อเธอ เพราะเข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่เมื่อลูกสาวแต่งงาน สิ่งนี้เองที่ทำให้แม่สามีอยากดูแลและรักเธอมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้แม่สามีของเธอให้ความรักกับลูกสะใภ้มาโดยตลอด อีกทั้งยังเดินทางไปเวียดนามเพื่อพบปะครอบครัวของฝ่ายหญิง ด้านฝ่ายชายก็พยายามเรียนภาษาเวียดนามอยู่เสมอ เพื่อให้ระยะทางและความแตกต่างทางภาษาเป็นอุปสรรคต่อความรักนั่นเอง
อ้างอิง : DANTRI
