บันเทิง

อัปเดตอาการ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ตุ่มน้ำลามที่มือ-ปาก ต้องดูดออกเรื่อยๆ

อาการล่าสุด เมฆ วินัย ไกรบุตร หลังป่วยเพราะตุ่มน้ำพอง พบลามไปที่มือและปาก ต้องคอยดูดออกทุก 2 ชั่วโมง แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว

หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ สำหรับนักแสดงรุ่นเก๋าอย่าง เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่พักงานวงการบันเทิงไปเพราะอาการป่วย ผิวหนังเสียหายจากตุ่มน้ำพองเรื้อรัง จนต้องกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคนในครอบครัว ล่าสุดเมฆเผยตนเองอาการดีขึ้นบ้างแล้ว ด้านภรรยาเล่าก่อนหน้านี้ตุ่มลามที่มือและปาก อาการหนักมาก

หากใครที่ติดตามไอจีของเมฆ วินัย ไกรบุตร ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าอดีตนักแสดงดัง ได้ออกมาอัปเดตอาการให้แฟนคลับได้ชมกันอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเจ้าตัวมีสีหน้าที่ดีขึ้น ทั้งยังเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว แสดงให้เห็นว่าอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน

อาการล่าสุด เมฆ วินัย

ด้านภรรยาสาว เอ๋ ชลรดา แสนสินรังษี ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเล่าผ่านรายการ คุยคุ้ยคน โดยระบุว่า อาการตุ่มน้ำของเมฆลามมาถึงมือ ทำให้มือมีลักษณะอืด แม้จะกินยาแต่ตุ่มน้ำก็ขึ้นทั้งตัว ทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก

ด้านการรักษาก่อนหน้านี้ ต้องทำกันไปตามอาการ เช่น การเอาเข็มจิ้มแล้วดูดน้ำออกจากผิวหนังใต้มือทุก ๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งสารที่ไหลออกมาจะแตกต่างกันออกไป ทั้งขาวใส ขาวขุ่น และเป็นน้ำเหลือง โดยเอ๋กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เหมือนมือศพ

เมฆ วินัย ไกรบุตร ป่วยเป็นอะไร

นอกจากนี้เมฆยังได้เผชิญปัญหา ตุ่มน้ำขึ้นในช่องปาก ทำให้ทานอาการไม่ได้ แถมยังมีอาการที่ก้นและหลังจนแทบจะเดินทางไปไหนนาน ๆ ไม่ได้เลยเช่นกัน

ทว่าตอนนี้ดูเหมือนช่วงเวลาวิกฤตของเมฆกำลังจะผ่านไปแล้ว เพราะเอ๋ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยเล่าว่า เมฆ วินัย ไกรบุตร อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากรักษาควบคู่ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และความเชื่อของ อ.ไพศาล ทำให้อาการเริ่มดีขึ้น ส่วนการดูดน้ำออกจากผิวหนังก็ไม่ต้องทำถี่เท่าเดิมแล้ว แถมเมฆเองก็ลุกขึ้นเดินและไปนอกบ้านได้แล้ว.

อาการเมฆ วินัย ไกรบุตร

ภาพจาก winaikraibutr

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button