แนะนำขั้นตอนวิธีคิดดอกเบี้ยบ้าน ผ่อนดอกเบี้ยกับเงินต้นอย่างไร สรุปมาให้เข้าใจง่าย มือใหม่หัดผ่อนบ้านก็สามารถทำได้ หากจ่ายดอกเบี้ยเท่านี้ เงินต้นจะลดเท่าไหร่ เคล็ดไม่ลับถ้าไม่อยากเสียเงินผ่อนบ้านก้อนโตไปทั้งชีวิต
หลังเป็นกระแสฮือฮายกใหญ่กรณีคุณ Pichanun Pnp แชร์ประสบการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวจ่ายค่างวดบ้าน 10,900 บาท แต่ธนาคารหักเงินต้นไปแค่ 5.50 บาท ที่เหลือคิดเป็นดอกเบี้ยแทน ทำเอาท้อใจหนักระบุข้อความว่า “ชาติไหนหมดเนี่ย หนักเลยวันนี้ ไปตัดต้นกู5฿ ฝากถึงคนที่จะกู้บ้าน5555555ตาย 2ปีแรกชิว พอปีที่3…. รอรีไฟแนนซ์!!!!”
สำหรับใครที่คิดจะกู้บ้านอย่าเพิ่งกังวลไปเพราะทีมงานได้ทำการ สรุปวิธีการคิดดอกเบี้ยบ้าน พร้อมขั้นตอนการผ่อนว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร ที่คนผ่อนบ้านต้องรู้บ้าง ทั้งเรื่องดอกเบี้ยและเงินต้น เช็กรายละเอียดได้เลยที่นี่
1. ผ่อนบ้านช่วงแรกเงินต้นไม่ลด
สาเหตุที่หลายคนจ่ายค่างวดบ้านในช่วงแรกแต่เงินต้นแทบไม่ลดลงเลย มี 2 เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ ได้แก่
1. ดอกเบี้ยบ้านเป็นการคิด “ลดต้นลดดอก”
เท่ากับว่าดอกเบี้ยในแต่ละงวดถูกคิดจากเงินต้นคงเหลือของงวดที่แล้ว ฉะนั้นเมื่อเงินต้นลดลงดอกเบี้ยก็จะลดลงด้วย
2. ค่างวดที่จ่ายในตอนแรกคือดอกเบี้ยไม่ใช่เงินต้น
หมายความว่าเงินที่เราจ่ายในแต่ละงวดจะถูกตัดในส่วนของดอกเบี้ยก่อน และที่เหลือค่อยนำไปตัดเงินต้นทีหลัง ตัวอย่างเช่น
หากกู้เงินจำนวน 10,000,000 บาท ดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี เท่ากับต้องผ่อนงวดละ 56,800 บาทต่อเดือน ตัดค่าดอกเบี้ย 45,833 บาท ดังนั้นจะเหลือเงินต้นจำนวน 10,967 บาทเท่านั้น
ส่วนเงินต้นคงเหลือจำนวน 9,989,033 บาท จะถูกนำไปเป็นเงินต้นงวดสำหรับคิดดอกเบี้ยในงวดที่ 2 ต่อไป โดยหากลองคำนวณต่อดอกเบี้ยในงวดที่ 2 จะลดลงเหลือ 45,783 บาท และนำไปตัดเงินต้นเพิ่ม 11,017 บาทนั่นเอง
สรุปว่าเป็นปกติที่ช่วงแรกของการผ่อนบ้านเงินต้นเยอะดอกเบี้ยก็จะเยอะตาม ซึ่งกว่าวันที่เงินต้นจะลดเราต้องผ่อนไปเรื่อย ๆ อาจต้องรอถึงช่วงกลางสัญญา เมื่อดอกเบี้ยต่องวดลดลง เงินต้นก็จะถูกตัดออกไปมากขึ้นจนผ่อนหมด
2. รีบลดเงินต้นเมื่อดอกเบี้ยสูง
ช่วงเวลาอันน่ากลัวของคนผ่อนบ้านคือการจ่ายดอกเบี้ยสูงลิบ อันเนื่องมาจากเงินต้นในช่วงแรกเหลือเยอะ ส่วนใหญ่สิ่งที่หลายคนทำกันมีอยู่ 3 วิธี ได้แก่
1. โปะด้วยเงินก้อน
จะทำให้เงินก้อนส่วนที่เกินจากดอกเบี้ยในงวดนั้น ถูกนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด และเมื่อเงินต้นลดลงเร็ว ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็น้อยลงตาม ซึ่งการโปะตั้งแต่งวดแรก ๆ จะให้ผลดีมากกว่าการโปะในงวดหลัง
ในทางตรงข้ามการค้างค่างวดหรือจ่ายขั้นต่ำ จะทำให้หนี้ค้างจ่ายเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากเงินต้นจะไม่ลดแล้ว ดอกเบี้ยที่เราไม่ชำระในงวดนี้จะถูกทบเป็นเงินต้นในงวดต่อไป
2. รีไฟแนนซ์
เป็นการย้ายไปผ่อนกับธนาคารอื่นเพื่อเอาโปรโมชันใหม่ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
3. รีเทนชัน
วิธีการเดียวกับการรีไฟแนนซ์ แต่เป็นการเจรจาต่อรองขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิมที่เราผ่อนอยู่ สามารถทำได้หลังจากผ่อนชำระครบ 3 ปีแล้ว เป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเงินส่วนดอกเบี้ยธนาคารได้เช่นกัน
3. คำนวณดอกเบี้ยบ้าน
สำหรับสูตรการคำนวณดอกเบี้ยบ้าน จะช่วยให้เรารู้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยบ้านแต่ละงวดกี่บาท แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนย่อย ดังนี้
1. คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด
สูตร : ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวดนั้น) ÷ จำนวนวันใน 1 ปี
2. คำนวณยอดเงินรวมเมื่อจบงวด
สูตร : ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด = เงินต้นคงเหลือ + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด (จากข้อ 1)
3. คำนวณเงินต้นคงเหลือ
สูตร : เงินต้นคงเหลือ = ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด (จากข้อ 2) – ค่างวดต่อเดือน
ตัวอย่างโจทย์และตัวอย่างวิธีคิดดอกเบี้ยบ้าน
โจทย์ : หากต้องการกู้ซื้อบ้าน 4,000,000 บาท ธนาคารกำหนดให้ผ่อนชำระเท่ากันทุกเดือน เดือนละ 20,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี และเริ่มชำระงวดแรกเดือนสิงหาคม จะต้องจ่ายดอกเบี้ยและมีเงินต้นคงเหลือแต่ละงวดเท่าไหร่?
- วิธีคิดงวดเดือนสิงหาคม
1. ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวดนั้น) ÷ จำนวนวันใน 1 ปี
= (4,000,000 x 3.00% x 31) ÷ 365 = 10,191.78 บาท
2. ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด = เงินต้นคงเหลือ + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด
= 4,000,000 + 10,191.78 = 4,010,191.78 บาท
3. เงินต้นคงเหลือ = ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด (จากข้อ 2) – ค่างวดต่อเดือน
= 4,010,191.78 – 20,000 = 3,990,191.78
- วิธีคิดงวดเดือนกันยายน
1. ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวดนั้น) ÷ จำนวนวันใน 1 ปี
= (3,990,191.78 x 3.00% x 31) ÷ 365 = 10,166.79 บาท
2. ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด = เงินต้นคงเหลือ + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด
= 3,990,191.78 + 10,166.79 = 4,000,358.57 บาท
3. เงินต้นคงเหลือ = ยอดเงินรวมเมื่อจบงวด (จากข้อ 2) – ค่างวดต่อเดือน
= 4,000,358.57 – 20,000 = 3,980,358.57
สรุปว่าการเสียดอกเบี้ยผ่อนบ้านจะต้องยอมรับเรื่องดอกเบี้ยสูงในช่วงแรกแต่จะลดลงเรื่อย ๆ ในงวดถัดไป รวมถึงการมองหาวิธีลดอัตรดอกเบี้ยหลังผ่อนมาตลอดระยะ 3 ปีเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามก่อนการผ่อนบ้านควรศึกษาและวางแผนการเงินให้ดี ต้องระวังอย่าให้ขาดสภาพคล่อง การจ่ายดอกเบี้ยในแต่ละงวดจะส่งผลถึงอีกงวดเสมอจึงควรชำระให้ตรงตามยอด ขณะเดียวกันการวางแผนจ่ายดอกเบี้ยบ้านอย่างเป็นระบบจะทำให้เราประหยัดเงินตั้งแต่หลักแสน-ล้านได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : 1