ข่าวข่าวการเมือง

‘ประธาน กกต.-พรรคพวก’ โดนแจ้งความ ข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ปมฟัน ‘พิธา’

อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และพรรคพวก โดนแจ้งความ กล่าวหาผิดมาตรา 172 ใช้อำนาจโดยมิชอบ ปมฟัน ‘พิธา’ ถือหุ้นสื่่อ

นายธนพล สงวนนามสกุล ในฐานะประชาชน เข้าพบ พ.ต.ต.ประธาน สีหาพล สว.(สอบสวน) ที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนาย อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมกับพวก กกต. กล่าวหาว่า กระทำผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 172 “เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

สำหรับรายละเอียดการแจ้งความระบุว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ค.66 ปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีความเห็นว่าสมาชิกภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) และให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป รายละเอียดปรากฏตามข่าวสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งข่าวประชาสัมพันธ์เลขที่ข่าว 269/2566 วันที่เผยแพร่ 12 ก.ค.66

โดยตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.66 ถึงวันที่ 12 ก.ค.66 ได้ปรากฏ ข้อเท็จจริงข้อกฎหมายคำสั่งศาลฎีกา คำพิพากษาศาลปกครอง ที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98(3) สถานะลักษณะธุรกิจรายได้ประจำปี 2565 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และคลิปบันทึกภาพและเสียงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ท2566 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เผยแพร่ต่อสาธารณะเรื่อยมา

ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบถึง ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย คำสั่งศาลฎีกา คำพิพากษาศาลปกครองเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98(3) สถานะลักษณะธุรกิจ รายได้ประจำปี 2565 ของ บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) และคลิปบันทึกภาพและเสียงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะทั้ง 5 รายการเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ณ ขณะกระทำการพิจารณาความเห็นดังกล่าวข้างต้น

แต่กลับยังมีความเห็นว่าสมาชิกภาพของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) และให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป

การกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าวจึงอาจเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 172 “เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” จึงขอให้พนักงานสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานและส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ และหากพบว่ากระทำความผิดจริงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินคดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้งจนถึงที่สุด

ด้านพนักงานสอบสวนได้รับคำแจ้งความไว้ตามระเบียบ ซึ่งสถานที่เกิดอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เหตุเกิดในท้องที่ของ สน.ทุ่งสองห้อง จะได้ส่งเอกสารประกอบการร้องทุกข์กล่าวโทษไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button