อีเว้นท์ไลฟ์สไตล์

อาชีพที่เสี่ยงตกงาน เพราะ ChatGPT จะเข้ามาแทนที่

มัดรวม 20 อาชีพที่จะตกงานเพราะ ChatGPT กำลังจะเข้ามาแย่งงานของคุณในอนาคต มีอาชีพไหนบ้างที่มีแนวโน้มจะโดน AI เข้ามาแทนที่

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าในปี 2023 โปรแกรม AI ที่บริษัทหลายๆ เจ้าพัฒนาขึ้นมา เก่งขึ้นมาก สามารถผลิตชิ้นงานทดแทนฝีมือมนุษย์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่น การเขียนงาน การเขียนโค้ด การวาดรูปภาพ และหลาย ๆ ภาคส่วนธุรกิจก็ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์พวกนี้

เห็นได้ชัดเลยคือบริษัทชั้นนำได้หยิบ AI มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในหลายอาชีพ และเลย์ออฟคนออกเป็นจำนวนมาก ทำให้แรงงานที่มีทักษะต่ำเสี่ยงมากต่อการตกงานในอนาคต โดยเฉพาะตอนนี้ เมื่อบริษัท OpenAI เปิดตัว ChatGPT โปรแกรมแชทบอตที่มีคลังข้อมูลอย่างมหาศาล และยังถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุด จนนักวิชาการต่างประเทศต้องออกมาวิเคราะห์กันเลยว่าโปรแกรมดังกล่าวจะทำให้อาชีพใดมีความเสี่ยงที่จะตกงานบ้าง

ในวันนี้ The Thaiger จะมานำเสนอ 20 อาชีพที่จะตกงานเพราะ ChatGPT ให้ทุกคนได้ทราบกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันได้เลย

20 อาชีพที่จะตกงานเพราะ ChatGPT

อาชีพเสี่ยงตกงาน มีอะไรบ้าง

1. นักดนตรี

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมอาชีพนักดนตรีถึงเป็นกลุ่มที่เสี่ยงตกงานเพราะเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT เข้ามาแทนที่ ต้องบอกเลยว่า ChatGPT สามารถแต่งเพลงได้แล้ว แต่สิ่งที่ยังเข้ามาทดทนมนุษย์อย่างเรา ๆ ไม่ได้คือ ความคิดสร้างสรรค์ ความละเอียดอ่อนที่มีต่อเพลง และการถ่ายทอดความรู้สึกให้แก่คนฟังได้อย่างลึกซึ้ง

2.ล่ามแปลภาษา

AI ของ ChatGPT สามารถแปลคำได้เร็วในระดับวินาที แต่สิ่งที่ยังทนแทนมนุษย์ไม่ได้ คือ การแปลแบบเข้าใจบริบทของคำ และความละเอียดอ่อนของศัพท์เฉพาะ โดยเฉพาะศัพท์ในโซเชียลที่กลุ่มวัยรุ่นชอบใช้กันเป็นประจำ ซึ่งอาชีพล่ามจะเข้าใจในบริบทส่วนนี้มากกว่า AI

3. IT Support

อาชีพ IT Support หรือ เจ้าหน้าที่สนับสนุนทางคอมพิวเตอร์ อาจต้องเตรียมตัวตกงานหรือเปลี่ยนสายงานกันอย่างถาวร โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีที่เริ่มมีการดึง AI เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำวิธีดารใช้ และช่วยแก้ปัญหาให้พนักงานและลูกค้า เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ความต้องการคนในสายงานไอทีอาจลดลงอย่างต่อเนื่อง และอาจมีการเลิกจ้างมนุษย์ไปเลยก็ได้

4. นักถอดเทป

การนั่งถอดเทปหรือถอดสคริปต์ถือเป็นหนึ่งในงานที่หนัก และสูญเสียพลังงานเอามาก ๆ ซึ่งในอดีตแม้จะมีตัวช่วยในการถอดเทปที่จะพอแบ่งเบาภาระได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถสู้มนุษย์อย่างเราได้อยู่ดี แต่ปัจจุบันสถานกาณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อมนุษย์เริ่มใช้ AI ถอดเทปและสคริปต์มากขึ้น ทำให้ร่นระยะเวลาการทำงานได้ดี ทำเอาอาชีพนักถอดเทปไม่ได้เป็นที่นิยมอีกต่อไป

5. นักกฎหมาย ทนายความ

แม้ว่าทนายความจะดูเป็นสายอาชีพที่มีความละเอียดอ่อน ต้องใช้ทักษะการพูดคุย โน้มน้าวใจเป็นอย่างมาก แต่บริษัทด้านกฎหมายในสหรัฐอเมริกา DoNotPlay ได้พัฒนาหุ่นยนต์ทนายจนมีความสามารถตอบโต้กับผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเตรียมต่อสู้คดีจำเลยที่โดนใบสั่งศาลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกในการใช้เอไอช่วยงานกระบวนการยุติธรรม ในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพทนายความอยู่ไม่น้อย

6. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

สายงานฝั่งทรัพยากรบุคคล ที่ต้องใช้ความละเอียดในการทำงาน ทั้งจัดหาพนักงานใหม่ ทำงานเอกสาร คำนวณค่าตอบแทนของพนักงานทั้งบริษัท แต่ AI ก็สามารถเข้ามาแทนที่ได้เพราะความสามารถในการคำนวณค่าตอบแทน ช่วยประหยัดเวลาในการจัดสรรสวัสดิการและค่าตอบแทนให้พนักงาน อาทิเช่น โปรแกรม Ultipro และ Workday ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเราต้องมาจับตาดูกันว่าในอนาคต ChatGPT จะเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคลได้มากน้อยเพียงใด

7. นักพิสูจน์อักษร

ในปัจจุบันมีโปรแกรมพิสูจน์อักษรออกมามากมาย และมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft word ไปจนถึงโปรแกรมตรวจพิสูจน์อักษรที่มีความแม่นยำสูงอย่าง Grammarly และ Hemingway App และยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่ช่วยให้นักเขียนสามารถตรวจพิสูจน์อักษรได้ด้วยตัวเอง และในอนาคตหากโปรแกรม ChatGPT ได้พัฒนามากขึ้น อาจทำให้อาชีพนักพิสูจน์อักษรอาจมีอัตราการตกงานเพิ่มมากขึ้น

8. ครู อาจารย์

อาจจะดูแปลกไปสักหน่อยที่อาชีพครูก็ติดเข้ามาเป็นหนึ่งในอาชีพที่เสี่ยงตกงานด้วย ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ครู อาจารย์ มีโอกาสโดนแทนที่ด้วย AI เพราะในอนาคตโปรแกรม ChatGPT อาจวางแผนการสอนเนื้อหาให้นักเรียนเองได้ โดยเฉพาะในระดับชั้นมัธยมศึกษา แต่ถ้าเป็นเรื่องการอบรมสั่งสอน ดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคลแล้ว เชื่อว่า AI คงไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้เหมือนกับครูและอาจารย์ที่เป็นมนุษย์จริง ๆ

9. Content Creator

แน่นอนว่าในอนาคตหาก ChatGPT มีบทบาทกับมนุษย์มากขึ้น คนที่ทำสายงานนี้ก็คงได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย เพราะ AI สามารถอ่านได้ เขียนได้ แถมยังเข้าใจข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือได้ดี จากความสามารถของ ChatGPT เขียนบทความ 1 หน้าภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำให้เจ้าของธุรกิจต่าง ๆ หันไปใช้การเขียนบทความผ่าน AI มากขึ้น และคาดว่าในอนาคตบทความต่าง ๆ อาจถูกเขียนด้วย AI ไปแล้ว 90%

อาชีพที่จะตกงานเพราะ ChatGPT

10. นักข่าว

ปัจจุบัน AI สามารถเขียนข่าวได้เป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งต่างประเทศได้เริ่มมีการใช้ ChatGPT ในการเขียนข่าวและใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาปรับปรุงเนื้อหาข่าวของตนเอง อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ในงานด้านสื่อสารมวลชนยังคงมีจุดขัดแย้งและข้อบกพร่องอยู่ รวมถึงยังมีข้อจำกัดบางประการ ซึ่งสุดท้ายแล้วมนุษย์อย่างเราจะต้องทำการตรวจสอบผลงานซ้ำก่อนเผยแพร่

11. กราฟิกดีไซน์

ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีที่สามารถใช้ AI วาดรูปอยู่มากมาย อาทิเช่น DALL-E และ Midjourney สามารถสร้างผลงานศิลปะได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความไม่สมจริงของภาพ มีความเกินจริงอยู่หลายจุด และยังไม่สามารถผลิตงานได้ตรงตามคำสั่ง ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ AI จะเข้ามาแทนที่สายงานกราฟิกดีไซน์ได้ในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มอาร์ตติสที่ต้องวาดรูปเป็นหลัก

12. นักวิทยาศาสตร์

สำหรับสายวิทยาศาสตร์ ฟังดูแล้วคงไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่นักหากจะพูดว่าอาชีพนักวิทยาศาสตร์จะเสี่ยงตกงานในอนาคต แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถแยกยะความแตกต่างระหว่างบทคัดย่อทางวิทยาศาสตร์ที่เขียนโดยมนุษย์กับ ChatGPT ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ในอนาคตการเขียนบทความวิทยาศาสตร์ อาจเป็นระบบที่ใช้ AI เขียนแทนทั้งหมด

อาชีพที่จะตกงานเพราะ ChatGPT

13. โปรแกรมเมอร์

ถือว่าเป็นสายอาชีพที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้ แต่ในปัจจุบันก็ยังมีโปรแกรม AlphaCode ที่สามารถแก้ปัญหาการเขียนโค้ดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ขณะที่โปรแกรมแชทบอตอย่าง ChatGPT สามารถใช้ตอบคำถามและเขียนโค้ดได้เช่นกัน แม้ในช่วงแรกอาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ในอนาคตโปรแกรมเมอร์หลายคนคงต้องหวาดผวากันเลยทีเดียว

14. อินฟลูเอนเซอร์และนางแบบ

แม้ว่าอาชีพอินฟลูเอนเซอร์จะเป็นอาชีพที่ใคร ๆ ก็อยากจะเป็น และใคร ๆ ก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือเพศอะไร แต่ขณะเดียวกันบนโลกนี้ก็มีอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็น AI เช่น โรซี่ ไอรีน กะทิ ที่สามารถเป็นคนดังได้ไม่ต่างจากมนุษย์ และยังไม่มีข้อจำกัดด้านร่างกาย หากในอนาคต ChatGPT ได้รับการพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่า AI เหล่านี้อาจเข้ามาทำหน้าที่รีวิวสินค้า ผลิตคอนเทนต์ได้ไม่ต่างจากอินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบัน

15. งานบริการลูกค้า

ในอนาคต หากChatGPT ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถตอบคำถามเรื่องยาก ๆ ที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนแทนคนได้ อาจทำให้คนที่ทำงานบริการเสี่ยงต่อการตกงานหรือถูกเลิกจ้าง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับ ลูกค้าสัมพันธ์ ที่ต้องคอยให้ข้อมูลลูกค้า และตอบคำถามลูกค้า

16. นักบัญชี นักวางแผนการเงิน

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาได้เล็งเห็นว่า เทคโนโลยีของ AI สามารถทำงานด้านเอกสารบัญชีต่าง ๆ รวมถึงงานด้านการเงินได้เร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า ซึ่งการใช้ AI จะเป็นประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการเตรียมข้อมูลเอกสารให้กับผู้ที่ทำงานด้านการเงินและบัญชี อย่างไรก็ตาม AI ยังคงเป็นเพียงผู้ช่วย อำนาจในการตัดสินใจทางการเงินและเศรษฐกิจ จะยังเป็นของมนุษย์อย่างแน่นอน

17. Copy Writer

สำหรับใครที่ทำงานในวงการโฆษณาคงรู้ดีว่า กว่าจะคิดคำโฆษณาขึ้นมาได้นั้นใช้ระยะเวลาที่นานเอามาก ๆ บางคนต้องคิดหลายวัน บางคนคิดเป็นเดือน ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้งานตามระยะเวลาที่ต้องการได้ แต่ในทางกลับกัน AI จะไม่ใช้อารมณ์มาเกี่ยวข้องในการทำงาน เพียงแค่เราระบุเงื่อนไขชัดเจนเมื่อออกคำสั่ง AI ก็จะแสดงผลลัพธ์ตามที่เราต้องการได้ ช่วยให้มีสำนวนโฆษณาออกมาเป็นจำนวนมาก และยังประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น

อาชีพเสี่ยงตกงาน 2566

18. นักวิจัยการตลาด

แม้ว่านักวิจัยการตลาด จะมีหน้าที่สำคัญในการวิเคราะห์การตลาดที่มีการแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา แต่ระบบ AI สามารถสร้างข้อมูลเหล่านี้ได้มากกว่าและง่ายกว่า ซึ่งในปัจจุบันได้มีโปรแกรม GrowthBot สามารถรวบรวมงานวิจัยการตลาดในหัวข้อที่สนใจและคู่แข่งในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ได้ทันที ทำให้ในอนาคตอันใกล้นักวิจัยการตลาดก็เสี่ยงที่จะตกงานเช่นกัน

19. ผู้ช่วยเสมือน

หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับคำว่า ‘ผู้ช่วยเสมือน’ ซึ่งผู้ช่วยเสมือนนั้นทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ช่วย แต่ไม่ต้องมานั่งประจำที่ออฟฟิศ โดยผู้ช่วยเสมือนจะทำหน้าที่บริการงานธุรการทั่วไปไม่ว่าจะช่วยจ่ายบิล จัดการอีเมล์ที่สำคัญ วางแผนการเดินทางต่าง ๆ หรือแม้แต่วางแผนการประชุม อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมนุษย์เราได้มีการใช้ AI เป็นผู้ช่วยเสมือนมากกว่ามนุษย์เสียอีก หากในอนาคต ChatGPT ได้รับการพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ใครที่ทำงานสายธุรการคงมีหนาวกันแน่ ๆ

20. ตัวแทนบริษัทนำเที่ยว

ในอดีตถือว่าอาชีพสายท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันการว่าจ้างตัวแทนนำเที่ยวลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด การวางแผนเดินทางแต่ละครั้งมักทำผ่านออนไลน์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสายการบิน การติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบิน การยื่นวีซ่า จองรถจองโรงแรมในเมืองต่าง ๆ ซึ่งโปรแกรม ChatGPT สามารถเข้ามาให้ความช่วยเหลือมนุษย์อย่างเราได้อย่างดี ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้อาชีพตัวแทนบริษัทนำเที่ยวอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา

สรุปแล้ว จากตัวอย่างข้างตน จะเห็นได้ว่าอาชีพที่เสี่ยงตกงานเพราะ AI อย่าง ChatGPT ครอบคลุมหลากหลายสาขาอาชีพมาก ทำเอาหลายคนต้องเริ่มคิดแล้วแหละว่าสายอาชีพที่เราทำอยู่นั้นจะถูกปัญญาเข้ามาแทนที่หรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นเราอาจกลายเป็นคนตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว รวมถึงกลุ่มคนที่ใกล้เรียนจบและกำลังมองหางาน ก็อาจตกอยู่ในสถาะว่างงานในระยะยาวได้

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button