ข่าวภูมิภาค

3 คนร้ายชาวรัสเซีย บุกปล้นเงิน BITCOIN ข่มขู่ให้บอกรหัสบัญชี ได้เงินไป 3 ล้านเศษ ก่อนหลบหนีไปมาเลเซีย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (17ม.ค.) ร.ต.ท.ชนันต์ หงส์สิทธิชัยกุล รองสว. (สอบสวน) สภ.ฉลอง อ.เมือง ได้รับแจ้งจาก นายแม็กซิม ลาศโตก้า อายุ 23 ปี และนางสาวแอนน่า นิคูริน่า อายุ 28 สัญชาติรัสเซีย ว่า ถูกคนร้าย 3 คนปล้นเงิน BITCOIN (บิสคอยน์) ยอดเงินในบัญชีหายไปประมาณ 3 ล้านบาทเศษ เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมชื่อลาโก้ ในหานบีช เลขที่ 88/86 ชั้น 3 ม.1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต

Advertisements

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4 ชั้น บริเวณห้องห้องนอนของผู้เสียหายพบเข้าของกระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพเป็นหลักฐานและเก็บรอยนิ้วมือแฝงคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 คน ทราบว่าเป็นแฟนกัน โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.61ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 ทุ่ม หลังจากที่ผู้เสียหายกลับจากทำธุระนอกบ้านก็ได้กลับเข้าที่พักที่เกิดเหตุ ขณะที่กำลังไขประตูห้องได้เพื่อเข้าไปพักผ่อนในห้องนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาวรัสเซียจำนวน 2 คน เข้ามาบังคับให้เข้าไปในห้องนอน โดยอ้างว่าเป็นตำรวจสากลประเทศรัสเซีย จะเข้ามาตรวจสอบผู้เสียหายเนื่องจากกระทำความผิดเล่นหุ้น BITCOIN (บิสคอยน์) โดยบังคับห้ามไม่ให้เหยื่อขัดขืนหากขัดขืนจะฉีดยาเสพติดเข้าในร่างกายทันที ในระหว่างนั้นคนร้ายก็ได้เอาหมวกไหมพรหมมาใส่ให้ นายนายแม็กซิม ลาศโตก้า และเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมศีรษะของนางสาวแอนน่า นิคูริน่า ในระหว่างนั้นได้มีชายชาวรัสเซียอีก 1 คน เข้ามาในห้องแล้วขู่บังคับให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คน เอาพาสเวิร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊ค รวมทั้งเอาพาสเวิร์ดของการเล่น BITCOIN (บิสคอยน์) ไปให้คนร้าย ซึ่งคนร้ายใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานประมาณ 5 ชั่วโมง หลังได้พาสเวิร์ดและข้อมูลรวมทั้งยอดเงินในบัญชีBITCOIN (บิสคอยน์) ทั้งหมดประมาณ 1 แสนยูโร หรือประมาณ 3 ล้านบาทเศษ คนร้ายก็ได้หยิบเอาโน๊คบุ๊ค รวมทั้งแม็กบุ๊คแล้วหลบหนีไป โดยระหว่างที่จะเดินออกจากห้องนั้นคนร้ายก็ไดข่มขู่อีกว่าห้ามให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจโดยเด็ดขาด หากพบว่ามีการแจ้งความไว้ในวันรุ่งขึ้นจะกลับมายัดยาเสพติดให้ผู้เสียหายรวมทั้งจะจับกุมส่งตำรวจไทยทันที

พ.ต.อ.ประชุม กล่าวอีกว่า หลังจากที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็กลัวเนื่องจากเป็นเด็กไม่กล้าที่จะแจ้งความ แต่วันนี้ผู้เสียหายโรศัพท์ไปหาเพื่อนชาวรัสเซียที่เป็นอาสาสมัครของตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง โดยอาสามัครของรัสเซีย ก็บอกว่าน่าจะถูกคนร้ายแก็งค์รัสเซียหลอกเอาเงินในบัญชีบิสคอยน์ แน่นอน จึงแนะนำให้มาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์ ต่อไป โดยหลังจากที่เกิดเหตุก็ได้ลงตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ มีการสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ เส้นทางเข้าออกบริเวณดังกล่าว โดยขณะนี้ทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีออกประเทศไทยไปหลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะออกหมายจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน

Advertisements

และจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียหายเคยเห็นคนร้าย 2 ใน 3 คนมาก่อน ตามร้านกาแฟใกล้กับที่พัก จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะติดตามสังเกตพฤติกรรมของผู้เสียหายมานานพอสมควรแล้ว โดยผู้เสียหายเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 2 เดือน และถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เก่ง และมีชื่อเสียงในวงการนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button