เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (17ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ว่า พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชาวต่างชาติ อยู่ห้องพักเลขที่ 4011 โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.จุลอัศว์ สุวรรณิน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สาคู จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต แพทย์เวรโรงพยาบาลถลาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตจุดเมืองใหม่
ที่เกิดเหตุภายในห้องบนเตียงนอน พบศพ หญิงสาว อายุ 28 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศฟินแลนด์ ทำงานเป็น พนักงานสายการบิน โทมัส คุ๊ก สภาพศพ สวมเสื้อซับในสีดำ ท่อนล่างเปลือย ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน พบรอยอาเจียนในถังขยะ ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้นำศพส่งโรงพยาบาลถลาง
จากการสอบถามพนักงานโรงแรมทราบว่า สายการบินโทมัสคุ๊ก ได้เช่าที่พักให้ลูกเรือและพนักงานพักที่โรงแรมดังกล่าว ขณะเกิดเหตุมีลูกเรือและพนักงานพักที่โรงแรมจำนวน 11 คน โดยพักตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561– 19 มกราคม 2561
พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สภ.สาคู กล่าวว่า หลังจากที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จึงได้เชิญลูกเรือของสายการบินโทมัสคุก ทั้ง 11 คน มาสอบปากคำที่สภ.สาคู จนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน แม่บ้านได้มาที่ห้องเกิดเหตุเพื่อทำความสะอาดก่อนเข้าไปได้เคาะประตูแต่ไม่มีคนเปิดรับจึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่หน้าห้องน้ำ สภาพศพสวมเสื้อซับในสีดำ ท่อนล่างเปลือย ในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน พบรอยอาเจียนในถังขยะ ห้องพักมีทางเข้าออกทางด้านหน้าด้านเดียว ขณะแม่บ้านทำความสะอาด ประตูล๊อคจากด้านใน การล๊อคประตูต้องใช้ลูกกุญแจเท่านั้น หากออกไปจากห้องใช้ลูกกุญแจล๊อค และถอดถือไปกุญแจที่ผู้ตายใช้ยังพบอยู่ภายในห้องพัก และจากการสอบปากคำเพื่อนที่อยู่ด้วยกันทราบว่า ผู้ตายดื่มแชมเปญไปพอสมควรในห้องพักของเพื่อนชาวฟินแลนด์ด้วยกัน จำนวน 5 คนภายในโรงแรมที่เกิดเหตุ ก่อนแยกย้ายกันเข้านอน
พ.ต.อ.จิระศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นนั้น ไม่พบบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่า เกิดจากการลื่นล้ม ศีรษะกระแทกพื้น และจะส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตต่อไป
