อาจกล่าวได้ว่าเป็นนักแสดงตลกมากประสบการณ์คนหนึ่งในวงการก็ว่าได้สำหรับ “เท่ง เถิดเทิง” หรือ “พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ” ที่ล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ก็ได้ไปออกรายการ WOODY FM เปิดเผยเรื่องราวชีวิตในอดีต กว่าจะเป็นตลกระดับตำนานอย่างทุกวันนี้ไม่เคยง่าย พร้อมเผยทัศนคติเกี่ยวกับมุกตลกร้ายที่ต้องบูลลี่คนอื่น
โดยเท่งกล่าวว่าตนนั้นไม่เคยเล่นมุกตลกล้อเลียนใครเลยตลอดชีวิตในวงการ เพราะมองว่าการเสียดสีปมด้อยคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้ว แต่ตนก็เพิ่งจะมารู้จักว่าการเล่นตลกร้ายในเชิงล้อเลียนสมัยนี้เรียกว่าบูลลี่ พร้อมกับสอนลูกตลอดว่าอย่าไปดูถูกใคร พร้อมขอบคุณทุกคำดูถูกในอดีตที่เป็นแรงผลักดันมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้เท่งยังเปิดใจถึงประเด็น “ตลกชอบเจ้าชู้” โดยกล่าวว่าผู้ชายทุกคนก็เจ้าชู้หมด เพียงแต่ใครจะมีความเจ้าชู้มากน้อยมันแล้วแต่คน แต่สำหรับตัวเท่งเองหลังจากมีครอบครัวก็เลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ไปเลย เพราะกล้าเอาครอบครัวไปแลก เพราะครอบครัวนั้นอยู่สูงกว่า
อีกทั้งสมัยนี้โลกโซเชียลไปไกล เป็นโลกไร้พรมแดน ใครไปเจ้าชู้อะไรที่ไหนไว้มีกล้องตามถ่ายหลักฐานเก็บไว้หมด และยิ่งเท่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งไม่กล้าที่จะออกนอกลู่นอกทาง กลัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูก ๆ
ปัจจุบันเท่งถือได้ว่าเป็นตลกที่รักสันโดษมาก ใช้ชีวิตสมถะ เงินที่ได้มาก็ไปแปลงเป็นทรัพย์สินอย่างอื่น ๆ พร้อมเปิดลู่ทางให้ลูกในอนาคต โดยเท่งเปิดใจว่าของแพงที่สุดที่เคยซื้อมาคือรองเท้า ราคาประมาณ 4,000-5,000 บาท แถมยังกล่าวติดตลกด้วยว่าภรรยาซื้อทองให้ใส่ก็ไม่กล้าใส่ ไม่ชิน ใส่แล้วรู้สึกเขิน
ทั้งนี้ เท่ง เถิดเท่ง ก็ได้เล่าถึงชีวิตในอดีตว่าต้องเจอมรสุม มีเรื่องให้เข้าใจผิด ถึงกับถูกทำร้ายร่างกาย โดนเตะเสยหน้ามาแล้ว ทำให้ต้องย้ายไปอยู่กับภรรยาโดยการเช่าบ้านคนอื่นอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างเจ้าของบ้านก็ใช้เป็นพื้นที่ขายข้าวแกง โดยตอนนั้นเท่งเจอปัญหาชีวิตหนักทำให้ต้องแอบลักไข่พะโล้เจ้าของบ้านมากินตอนกลางคืน.
