ลิโอเนล เมสซี่ แข้งซุปตาร์ของเปแอสเช ยืดอกยอมรับว่าเขาเองไม่ชอบพฤติกรรมของตัวเอง ในเกมที่ อาร์เจนตินา ดวลจุดโทษเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022
เมสซี่ นำทีมชาติอาร์เจนติน่า ดวลแข้งกับทัพอัศวินสีส้ม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นทัพฟ้าขาวที่เอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษ หลังทั้งสองทีมเสมอกันใน 120 นาที 2-2
ในเกมดังกล่าวมีประเด็นให้พูดถึงมากมาย เริ่มจากการที่เมสซี่แสดงท่าทางเอามือป้องหุพร้อมกับหันหน้าไปหา หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของเนเธอร์แลนด์ หลังยิงประตูที่สองให้กับทีมได้
ล่าสุด ดาวเตะวัย 35 ปีได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Urbana Play สื่อท้องถิ่นชื่อดังว่าเขารู้สึกเสียใจกับการประทำของตัวเอง ที่แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ชอบการกระทำแบบนั้นเลย
“ความจริงคือเปล่าเลย (ผมไม่ได้เตรียมตัวมาทำแบบนั้น) ผมไม่ชอบมันเลย”
“มันเกิดขึ้นโดยฉับพลัน และใช่ ผมรู้ว่าเขาพูดอะไรก่อนเกม เพื่อนร่วมทีมบางคนจงใจบอกกับผมว่า ‘นายเห็นไหมว่าเขาพูดอะไร?'”
“เราขึ้นนำ 2-0 และตอนนั้น ผมไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองทำเลย และเรื่อง ‘ไสหัวไป ไอ้งั่ง’ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกังวลและมีความตึงเครียดอย่างมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และคุณก็ไม่ได้มีเวลาคิดถึงอะไรทั้งนั้น”
“อันที่จริงแล้วผมไม่ได้วางแผนเอาไว้ มันเกิดขึ้นมาโดยฉับพลัน และอย่างที่ผมบอก นั่นไม่ใช่ภาพที่ผมอยากจะให้เกิดขึ้นเลย”
นอกจากนี้ เมสซี่ ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่เขาตะโกนด่า เวาต์ เว็กฮอร์สต์ เอาไว้ว่า “ทุกอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่จริงแล้วมันมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในสนามกับนักเตะคนนี้และอีกหลายคน”
“ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด, ความขัดแย้ง และการเผชิญหน้าเมื่อเกมมันดำเนินไปอย่างนั้น รวมทั้งความเดือดเพราะผู้ตัดสินด้วย ผมอยู่ในมิกซ์โซนและเพิ่งจบเกม แต่ก็นะ ผมรู้ว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว”