พิพัฒน์ แจงกรณี รถตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยว พบทำหน้าที่พลการ 2 นาย ชี้พบนักท่องเที่ยวสูบบุหรี่ไฟฟ้าจับไม่ได้ ส่งศาลอย่างเดียว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. จากกรณีตำรวจนำขบวนนักท่องเที่ยว รวมถึงอำนวยความสะดวกต่างๆทั้งลัดคิวแถวตรวจคนเข้าเมือง ประเด็นร้อนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นายพิพัฒน์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวฮ่องกงใช้บริการของตำรวจท่องเที่ยวในการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางว่า มีเจ้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 2 คนเท่านั้น ที่เข้าไปดำเนินการโดยพลการ และไม่ได้ขออนุญาตจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในการเข้าให้บริการรถนำขบวนแก่นักท่องที่ยวจีน
ยืนยันว่าตำรวจสามารถนำขบวนได้ไม่ผิดกฎหมายและขออนุญาตได้ แต่ จะต้องเป็นแขกของรัฐบาล ผู้นำรัฐบาลที่เข้ามาเป็นการส่วนตัว หรือราชวงศ์ของประเทศต่างๆ ที่เข้ามาประเทศไทยและหากต้องการขอดูแลความปลอดภัย อารักขาบุคคลสำคัญและอำนวยความสะดวกตามจำเป็นแก่กรณี ให้ทำหนังสือมาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์โดยรถบัสหลายคัน หรือรถเล็กที่แข่งแรลลี่รวมถึงบิ๊กไบก์ที่มาเป็นขบวน หากขออนุเคราะห์เพื่อขอความปลอดภัยเราสามารถส่งรถนำขบวนไปได้
วนกรณีบัตร พริวิเลจ คาร์ด ที่มีบริษัททัวร์หรือบริษัทนายหน้านำไปขายเกินราคา เป็นเรื่องการตลาดไม่สามารถควบคุมได้เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งบัตรพริวิเลจ คาร์ด มีประมาณ 7-8 ประเภท ซึ่งผู้ที่ถือบัตรมีสิทธิประโยชน์ที่จะสามารถขอบริการพิเศษให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรับแล้วนำเข้าช่องทางพิเศษ และให้การบริการในการส่งถึงหน้าประตูทางออก รวมถึงส่งถึงหน้าประตู แต่หากอยากให้มีรถรับส่งก็จะติดค่าบริการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ
“ยืนยันว่าการที่มีบริษัททัวร์ไปขายเกินราคา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ไม่สามารถจะรับผิดชอบในสิ่งเหล่านั้นได้ ซึ่งประเทศไทยมอบบัตรพิเศษให้กับบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมถึงทำประโยชน์ให้ประเทศไทย เช่น กรณี หมี่เซียะนักแสดงชื่อดังมาโปรโมทการท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวจีน” นายพิพัฒน์ กล่าว
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ส่วนกรณีมีการโฆษณาเกินจริงว่า มีโปรโมชั่นเสริมสามารถทำบัตรประชาชนได้ ในบัตรพริวิลเลจ คาร์ดนั้น ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการตรวจสอบ หากเกิดเหตุการณ์นี้จริง จะให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนสอบสวนบริษัททัวร์ ที่โฆษณาแบบนั้นว่า กระทำเกินจริงหรือไม่ ซึ่งหลักเกณฑ์ของบัตรไม่โฆษณาเกินจริง เนื่องจากมีอัตราค่าใช้บริการที่แน่นอนและมีราคาที่สูง
ส่วนประเด็นดาราสาวไต้หวันครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยนั้น นายพิพัฒน์ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นใครที่พกนำเข้ามาในประเทศไทยถือว่าผิดกฎหมายประเทศไทย แต่การเจอนักท่องเที่ยวสูบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจะจับปรับได้ จะต้องนำส่งศาลอย่างเดียว
