‘เบียร์ ใบหยก’ ทายาทนักธุรกิจแสนล้านเปิดใจ ตอบหมดเปลือก ไม่มีแอ็บ เรื่องรายได้ ผ่านรายการ Bearhug พร้อมเผยมุมมองการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
เรียกได้ว่าเป็นนักธุรกิจอีกคนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ‘เบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก’ หรือ ‘เบียร์ ใบหยก’ รองประธานกรรมการกลุ่มโรงแรมใบหยก ลูกชายคนโตของ พันธ์เลิศ ใบหยก ตำนานผู้สร้างตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อ (15 มิ.ย 65) ที่ผ่านมา เบียร์ ใบหยก ก็ได้สร้างความฮือฮาจนชาวเน็ตถึงกับร้องว้าวอีกครั้ง กับการมาร่วมสัมภาษณ์พูดคุยในช่อง Bearhug ในคลิป “เผือกเรื่องรายได้ เบียร์ใบหยกเงินเดือนเท่าไหร่ มีเงินแสนล้านจริงปะ” โดยทางช่องได้บุกมาเยือนร้านส้มตำ-คอหมูย่าง “เจ๊แดง สามย่าน” ที่ทางพี่ เบียร์ ถือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของร้านนี้ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ ในเรื่องต่างๆ ในชนิดที่ว่าล้วงลับ exclusive สุดๆ
โดยเรื่องแรกที่ไม่ถามไม่ได้เลย ก็คือ เรื่องธุรกิจหลักของที่บ้าน โดยคุณเบียร์ ได้เล่าว่า การทำอสังหาริมทรัย์ มีที่ดิน แล้วพัฒนาเป็นโรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหาร แต่ถ้าไม่พัฒนาก็เก็บไว้ จะทำให้มีมูลค่าขึ้นถ้ามีคนซื้อก็ขาย ถามว่าเราเป็น “ทายาทแสนล้าน” จริงไหม ส่วนตัวคิดว่า คนเขาไปตีมูลค่าที่ดินที่เรามีอะไรอย่างนี้มากกว่า เลยถึงเป็นที่มาของฉายา
ส่วนเรื่องเงินเดือน ตอนนี้ทำหลายบริษัท อย่างโรงแรมก็เป็น CEO ส่วนตำแหน่งรวมของบริษัทก็เป็นรองประธานกรรมการ คือก็ทำทุกอย่าง มีธุรกิจร้านอาหาร ก็จะเปิดเป็นบริษัทใหม่ เป็น CEO เงินเดือนรวมเบ็ดเสร็จก็ประมาณ 5-6 แสน คือตั้งแต่เรียนจบ ไปอยู่อังกฤษมา 1 ปี กลับมาปุ๊บเราได้มีการบอกพ่อ ขอทำงานเลยเพราะจะเอาเงิน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเงินเดือนก้อนแรกที่ได้มาค่อนข้างสูง แต่งานหนักมาก เราทำทุกอย่าง ทั้งเป็นฟร้อน ปูเตียง เป็นเซลล์ เคยโดนลูกค้าด่ามาแล้วด้วย
ซึ่งในช่วงกลางรายการก็ได้มีการถามความรู้สึกที่เป็นทายาทนักธุรกิจแสนล้านโดยคุณ เบียร์ เผยว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองวิเศษเลย จะแอบเครียดด้วยซ้ำ ตนเองเครียดตั้งแต่เด็ก ถูกพ่อจับเข้าประชุมตั้งแต่ ม.3 ม.4 ต้องใส่สูทนั่งห้องประชุม ให้ไปนั่งฟัง นั่งจด แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาคุยอะไร แต่ว่าพ่อเราเก่งมาก เราเองก็ต้องทำได้
และในช่วงท้ายของรายการนี้เองคุณเบียร์ก้ได้พูดถึงภาพรวมของธุรกิจของตนในปัจจุบันว่า เผยว่า ณ ตอนนี้ ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเพราะมีโควิด นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมี ก็ประมาณ 40 ล้าน แต่บรรทัดสุดท้าย หักทุกอย่างแล้วก็เหลือเพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
