ดูดวงผู้หญิงเลขเด็ดไลฟ์สไตล์

เมื่อ ‘พระสทาศิวะ’ ไม่ใช่ ‘พระตรีมูรติ’ หน้าเซ็นทรัลเวิล์ด

เรียกว่าเกิดกระแสหนักมากอยู่ช่วงหนึ่งในหน้าโซเชียล เมื่อมีคนออกมาบอกความจริงว่า พระตรีมูรติ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นคือ พระสทาศิวะ ไม่ใช่พระตรีฯ อย่างที่หลาย ๆ คนคิดกัน แล้วในความเป็นจริงพระสทาศิวะก็ไม่ได้ให้พรในเรื่องของความรักอีกต่างหาก ทำเอางงไปกับทั้งสื่อออนไลน์กันเลยทีเดียว วันนี้ The Thaiger Thailand จึงมาเล่าย้อนประวัติ และทำความเข้าใจพร้อมเทียบความต่างกับพระตรีมูรติ ด้วยนะ

พระสทาศิวะ องค์เทพตัวจริงหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด เข้าใจผิดคิดว่าเป็น พระตรีมูรติ

พระสทาศิวะ ประวัติ พระศิวะ 5 เศียร

พระสทาศิวะ เทพตามความเชื่อทางคติของลัทธิไศวสิทธานตะ สายมันตรมรรค เป็นเทพเจ้าสูงสุดตามความเชื่อในศาสนาฮินดู ที่มีอยู่ด้วยกัย 3 องค์ ได้แก่ พระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม เชื่อกันว่าพระสทาศิวะทรงมีอำนาจ ดลบันดาลทุกสรรพสิ่งอย่างให้เป็นตามอย่างใจนึก นอกจากนี้แล้ว พระศิวะยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผี หรือปีศาจอีกด้วย

สำหรับพระสทาศิวะนั้น เป็นพระศิวะในรูปสูงสุด จำนวนพระกรแตกต่างกันไปตามศิลปะการสร้างของแต่ละที่ แต่จะคงลักษณะไว้คือทรงมี 5 เศียร เรียกว่าปาง ‘ปัญจมุขี’ เป็นที่นับถือของคนในอารยธรรมขอมเรื่อยมาจนถึงสมัยอยุธยาในฐานะเทพเจ้าอันสูงสุด ไม่ต่างอะไรไปจากรูปพระตรีมูรติ ซึ่งก็คือเทพเจ้าสูงสุดทั้งสามองค์ในศาสนาฮินดู

ศาล พระสทาศิวะ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์

บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ทางฝั่ง BTS ชิดลม เราจะสามารถพบกับศาลสีขาวตั้งตระหง่าอยู่ที่สี่แยกราชดำริ ที่หลาย ๆ คนอาจเคยคิดว่านั่นคือ พระตรีมูรติ แต่เดิมที่นี่เคยเป็นที่ประทับของ วังเพ็ชรบูรณ์สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงได้เคยนำรูปพระตรีมูรติมาประดิษฐานไว้

จนกระทั่งพระตรีมูรติ ได้หายสาบสูญไปอย่างปริศนา จึงได้มีการนำพระสทาศิวะ มาประดิษฐานแทน จนมีครั้งหนึ่ง ที่ทางเซ็นทรัลเวิลด์ได้เชิญ พระราชครูวามเทพมุนี มาประกอบพิธีโดยระบุว่า การทำพิธีครั้งนี้ จะเป็นการเคลื่อนย้ายองค์พระตรีมูรติ แต่ทางพระราชครูวามเทพมุนี ท่านไม่ทำให้ เพราะท่านบอกว่าองค์นี้เป็นพระสดาศิวะไม่ใช่พระตรีมูรติ

ความเข้าใจผิดที่ยังคงอยู่

มีเรื่องเล่ากันมาว่า ศาลพระสทาศิวะ ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถูกพบอยู่ที่วังเพ็ชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างในปัจจุบัน แต่เดิมที่นี่เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงได้เคยนำรูปพระตรีมูรติมาประดิษฐานไว้ ก่อนจะสูญหายไป

แต่ความเชื่อดังกล่าวก็ถูกหักล้างเมื่อไม่นานมานี้เอง จากที่อ้างถึงการประดิษฐานพระตรีมูรติของรัชกาลที่ 4 ด้านหน้า วังเพ็ชรบูรณ์ ที่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ว่า วังเพ็ชรบูรณ์ ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ก่อให้เกิดเกิดการตีความผิดทางประวัติศาสตร์ ที่ระบุถึงการสร้างวังแห่งหนึ่งของรัชกาลที่ 4 ในบริเวณย่านปทุมวันปัจจุบัน ที่แท้จริงแล้ววังดังกล่าว คือ วังสระปทุม ไม่ใช่ วังเพ็ชรบูรณ์

แล้วอย่างนี้ยังจะไปขอพรความรักได้อยู่ไหม ?

โดยทั่วไปแล้วนั้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไปของพรกันที่หน้าเซ็นทรัลเวิล์ดกว่า 90% ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความรักอย่างแน่นอน เพราะพระตรีมูรติ (ตามความเชื่อในปัจจุบัน) มักจะให้โชคในเรื่องของคู่ครอง ความรักที่รวดเร็วยั่งยืน

แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้ว ตามความเชื่อนั้น พระสทาศิวะท่านจะประทานพรในทุกสิ่งได้สมตามความปรารถนา ไม่ได้เฉพาะเรื่องความรักเท่านั้น แต่เป็นในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ ปัญหาต่าง ๆ รวมถึงเรื่องความรักเช่นกัน นั่นคงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เวลาใครไปขอพรเรื่องความรัก ก็สมปรารถนา เพราะท่านประธานพรให้กับทุกคำขอนั่นเอง

ความต่างของ พระสทาศิวะ และพระตรีมูรติ

ภาพจาก : Facebook หมื่นเทพเทวะ
  • พระสทาศิวะ ปาง 5 เศียร เป็นพระศิวะในรูปสูงสุด สร้างขึ้นโดยใช้ศิลปะอินเดีย และศิลปะแบบขอม ถูกสร้างให้มี 4 – 10 กรเช่นกัน แต่ในศิลปะรัตนโกสินทร์นั้น กลับมีเพียง 4 กร โดยคงลักษณะไว้คือทรงมี 5 เศียร มีดวงจันทร์อยู่บนพระเกษาบนสุด เป็นสัญลักษณ์ของพระศิวะอย่างชัดเจน
  • พระตรีมูรติ จะมี 3 เศียร 6 กร เป็นตัวแทนขององค์พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ สามมหาเทพของศาสนาฮินดู ถือเทพอาวุธและคัมภีร์ ตามที่สามมหาเทพจะทรงถือตามคติโบราณ

ความต่างที่ชัดเจนนี้เอง ทำให้สามารถชี้ความกระจ่าง ไขข้อข้องใจสำหรับองค์เทพหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด เพราะเป็นรูปแบบของพระสทาศิวะ อย่างชัดเจน ไม่ใช่องค์พระตรีมูรติแต่อย่างใด แต่ความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ก็ไม่ได้ต่างกันเลย เพราะทั้งสององค์ ล้วนมีความขลัง และให้ความสมหวังทั้งคู่

บทสวด ขอพร พระสทาศิวะ

เตรียมเครื่องไว้ ด้วยธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม พวงมาลัยดอกไม้หอม น้ำดื่ม หรือ นมสด กำยานเครื่องหอม ผลไม้ ขนมหวาน เครื่องเทศ ห้ามถวายอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 จบ)

” โอม นะมัส ศิวายะ
การะปูระเคารัม กะรุณาวะตารัม
สัมสาระสารัม ภุชะเคน ทระหารัม
สะทาวะสันตัม หะรึทะยาระวินเท
ภะวัมภะวานี สะหิตัม นะมามิ “

หลังจากที่ สวดคาถาบูชาพระสทาศิวะ เรียบร้อยก็ให้ขอพรในสิ่งที่ตนเองปรารถนา แต่สิ่งที่ได้ขอจากพระศิวะ ควรเป็นเรื่องราวดี ๆ สิ่งดี ๆ ไม่ควรขอในเรื่องที่ผิดศีลธรรม เพราะในการขอพรใส่ไม่ดี ผลร้ายดังกล่าอาจส่งผลกลับเข้าตัวผู้ขอเสียเอง

แม้ว่าจะได้ความกระจ่างกันแล้วว่าแท้จริง พระตรีมูรติ ที่เราไปขอพรความรักกันนั้น แท้จริงคือพระสทาศิวะ แต่กลายเป้นว่าความศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ยังเป็นจุดดึงดูนักท่องเที่ยวสายมูฯ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่เสมอ เพิ่มเติมคือจะขอสิ่งใดก็สมดั่งปรารถนา ดังนั้นใครที่กำลังลังเลอยู่ว่่าจะไปกราไหว้ดีมั้น The Thaiger ขอยืนยันหนักแน่นเลยว่าไปโล้ด ปังจริง ทั้งความรัก การงาน งานเงิน การเรียน เริศมาก ?

อ้างอิงจาก : 1, 2, 3

เรื่อง : สิทธิโชติ ลังกากาศ
บรรณาธิการ : ทศพล ถิรเจริญสกุล


? ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน The Thaiger

? Google Play Store
? App Store

baesittichot

นักเขียนสายฮาอารมณ์ดี ไลฟ์สไตล์ เรื่องน่ารู้ทั่วไป ตามติดเทรนด์ฮิตที่ห้ามพลาด อัปเดตข่าวเศรษฐกิจ การเงิน ประสบการณ์งานเขียนมากกว่า 1 ปี ชอบเม้าท์มอย ส่งต่อเรื่องราวน่าสนใจผ่านตัวอักษร ผลงานทุกชิ้นจึงเป็นเหมือน 'เพื่อน' ที่อยากเล่าสิ่ง ๆ ต่างให้คุณได้รู้เป็นคนแรกเสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button