ข่าวข่าวภูมิภาค

‘ธนกร’ กางแผน ฉีดวัคซีนกระตุ้น เข็มสาม ยี่ห้อไฟเซอร์-โมเดอร์นา

โฆษกสำนักนายก เปิดเผยถึงแผนการ ฉีดวัคซีนกระตุ้น เข็มที่สาม ยี่ห้อไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา สำหรับประชาชนที่ฉีดแอสตราเซเนกา หรือ สูตรไขว้ ตั้งแต่สิงหาที่ผ่านมา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วานนี้ เห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนธันวาคม 2564 โดยจะให้มีบริการฉีดวัคซีนอย่างน้อยจำนวน 6.6 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 3.1 ล้านโดส เข็มที่ 2 จำนวน 2.3 ล้านโดส และเข็มที่ 3 จำนวน 1.2 ล้านโดส และจะดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางใหม่ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ดังนี้

– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนธันวาคม 2564
– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนกันยายน – ตุลาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมกราคม 2565
– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
– ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2564 สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นในเดือนมีนาคม 2565

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็น AstraZeneca สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น Pfizer หรือ Moderna โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 3 – 6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2 สำหรับประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 เป็น Pfizer หรือ Moderna สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น Pfizer หรือ Moderna โดยเว้นระยะห่างตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป รวมถึงประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เข็มที่ 1 Sinovac หรือ Sinopharm เข็มที่ 2 AstraZeneca สามารถรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น AstraZeneca/ Pfizer หรือ Moderna โดย ศบค. มีแผนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพิ่มอย่างน้อย 23 ล้านโดส ภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ยังเห็นชอบแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ในปี 2565 โดยรัฐบาลตั้งเป้าจะจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส จากบริษัทผู้ผลิตหลายบริษัทด้วยกัน อาทิ AstraZeneca Pfizer

และวัคซีนชนิด Protein Subunit เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเพียงพอและครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 80 ของประชากรทุกคนในประเทศไทย สำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 12 ปี สามารถได้รับการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยรับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบ walk-in ได้ตามสถานพยาบาลหรือศูนย์บริการฉีดวัคซีนอีกด้วย อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19อย่างดีทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button