เศรษฐกิจ

กกพ. มีมติตรึง ค่าไฟ งวด พ.ค.-ส.ค. 64 ลดภาระชาวบ้าน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบให้มีการตรึงในส่วนของ ค่าไฟ ในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2564 เพื่อช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพของประชาชน

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บ ค่าไฟ ในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2564

โดยให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วยต่อไปอีก 4 เดือน

ซึ่งทาง กกพ. มองว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และแนวโน้มการอ่อนตัวลงของค่าเงินบาท อาจส่งผลต่อค่าเอฟทีในช่วงปลายปี อีกทั้งความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

นายคมกฤช ได้กล่าวถึงการดำเนินการนี้ว่า “การตรึงค่าเอฟทีที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย จะต้องใช้เงินบริหารจำนวน 2,610 ล้านบาท ในขณะที่ กกพ. ยังคงมีเงินบริหารเก็บไว้จำนวน 4,129 ล้านบาท กกพ. จึงตัดสินใจตรึงค่าเอฟทีที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วยในรอบเดือน พ.ค. – ส.ค. 2564 เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน”

ในส่วนของปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที (ตามปกติ) ในรอบเดือน พ.ค. – ส.ค. 2564 ประกอบด้วย

  1. ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 2564 เท่ากับประมาณ 67,885.43 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 ร้อยละ 11.86
  2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 2564โดยมีด้วยกันดังนี้
    • ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ร้อยละ 55.5 ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
    • ค่าเชื้อเพลิงลิกไนต์ของ กฟผ. ร้อยละ 8.73
    • ถ่านหินนำเข้าโรงไฟฟ้าเอกชน ร้อยละ 8.72
    • อื่นๆ อีก ร้อยละ 10.03
    • นอกจากนี้เป็นการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ (ลาวและมาเลเซีย) รวมร้อยละ 17.02
  3. สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ที่ราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นจากประมาณการณ์ในรอบเดือน ม.ค. – เม.ย. 2564 เนื่องจากการเพิ่มของราคาน้ำมันดิบ และการอ่อนตัวลงของค่าเงินบาท
  4. อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ (วันที่ 1 – 31 มกราคม 2564) เท่ากับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากประมาณการในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ที่ประมาณการไว้ที่ 31.4 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบเดือนพฤษภาคมสิงหาคม 2564 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 5 – 19 มีนาคม 2564 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

 

แหล่งที่มาของข่าว : กรุงเทพธุรกิจ

สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button