ข่าวภูมิภาค

คาร์บอมบ์ยะลา เจ็บ 8 ราย บิ๊กแป๊ะลงพื้นที่ด่วน

คาร์บอมบ์ยะลา เจ็บ 8 ราย บิ๊กแป๊ะลงพื้นที่ด่วน

เมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบริเวณหน้าประตูทางเข้าอาคารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เก่า ที่ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ส่งผลให้แรงระเบิดทำให้ป้ายชื่อ ศอ.บต.ด้านหน้าพังเสียหายแทบทั้งหมด ขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการตางๆ ที่กำลังประชุมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วิ่งหลบหาที่ปลอดภัยกันจ้าละหวั่น

การระเบิดมีทั้งสิ้นสองลูก ระยะเวลาห่างกันประมาณ 5-10 นาที เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 5 นาย 3 รายถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา และอีก 2 ราย ผู้สื่อข่าวบาดเจ็บ 3 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 8 ราย

สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จว.ยะลา, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร., พนักงานสอบสวน , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิด ซักถามพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบเงินบำรุงขวัญ ให้แก่ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานในพื้นที่ สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานและเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นรองโฆษก ตร. กล่าวว่า น่าเชื่อว่าเกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังสร้างสถานการณ์และประสงค์ต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ จากการปิดล้อม กดดันจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการให้ สถานีตำรวจในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่โดยรอบของสถานีตำรวจและหน่วยราชการต่างๆ รวมไปถึงให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน

โดยเน้นย้ำว่า หากเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งสืบสวนสอบสวน ขยายผล จับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา สังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หรือ วัตถุที่ไม่มีเจ้าของอยู่ผิดที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หรือ โทรศัพท์แจ้งเหตุร้ายเหตุด่วน ที่หมายเลข 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

https://www.facebook.com/Policenewspage/videos/281727836128664/

https://www.facebook.com/policetv.tv/posts/2851362834946345?__xts__%5B0%5D=68.ARCEIwYxh99H4KhGaAqbrTlwcsJD5MNV_SVZNsnxNRsj_yT-__ZK6YQHEomoC2bU56jQ7Lq92zyhLs-2fHGPBM0JSOz05mQAWPcm52KV2z1Bexp9i1sfCnQAtMMKdfvVe3FPYme6EbOSinzBNIvqWLaaRebu_DwhF2Rxg1C712XIXDyj7q5AMsR4xBcXubR_kB-O-TnXADFhwNiETE5vGdIpOD8-0fYdHa66Mdr0GLh7bqSTTPu4fIDGPtRm3cKQ9RnFykU49vdtVivRxZp3Dil6Eeq7XZ3UwPYGP0-KEYkbNrFXDiZuLPt8VgQpKHe3Gckg8Kze6sHrejA3WhGYFLbPmw&__tn__=-R

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button