เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาลูกทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดียม รับมือการมาเยือน ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ในคืนวันพุธที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
The first City line-up of the decade! 🙌
Bravo, Cancelo, Fernandinho (C), E Garcia, Mendy, Rodrigo, Gundogan, Mahrez, Foden, De Bruyne, Jesus
Subs | Carson, Walker, Sterling, Aguero, Angelino, Bernardo, Silva
⚽️ @HaysWorldwide
🔵 #MCIEVE #ManCity pic.twitter.com/sqzmVWLn6F— Manchester City (@ManCity) January 1, 2020
นาทีที่ 9 ทัพ “ทอฟฟี่” เกือบบุกมาขึ้นนำไปก่อน หลัง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ตักบอลข้ามแนวรับให้ เซมัส โคลแมน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนพยายามยิงด้วยซ้ายข้ามหัว บราโว่ แต่ดีที่นายด่านชาวชิเลี่ยนเหินปัดออกไปได้
VAR !!! นาทีที่ 12 ฟิล โฟเด้น ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ทว่า อังเดร มาร์ริเนอร์ ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ หลังเช็กประตูนี้แล้วปรากฎว่า มาห์เรซ ที่เป็นคนทำเกมจังหวะขึ้นมาล้ำหน้าก่อนแล้ว
VAR !!! นาทีที่ 19 ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ ต้องใช้ VAR ช่วยเช็กจุดโทษอีกครั้งจากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ โดน ลูก้าส์ ดีญ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป่าให้เล่นต่อไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นาทีที่ 29 เบนฌาแม็ง เมนดี้ กระชากขึ้นมาแล้วจ่ายเข้าในให้ ริยาด มาห์เรซ แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วโยกและยิงด้วยเท้าซ้ายมุมแคบ โดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดออกเอาไว้ได้
นาทีที่ 41 ซิตี้ ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปในกรอบก่อนตบให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งมาซัดด้วยเท้าขวา แต่หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
HALF-TIME | Easy on the eye, but no end product yet. Let's make it count in the second 45 minutes!
💙 0-0 🔵 #MCIEVE #ManCity pic.twitter.com/rQEczM2QMN
— Manchester City (@ManCity) January 1, 2020
GOAL !!! ครึ่งหลังมานาทีที่ 51 ลูกทีม เป๊ป มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลให้ กาเบรียล เชซุส แล้วแตะหนี โฮลเกต ก่อนปั่นด้วยขวาหนีมือ พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสวยงาม
GOAL !!! นาทีที่ 58 แมนซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ จ่ายบอลให้ กาเบรียล เชซุส ได้หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ พิคฟอร์ด ตุงตาข่ายอีกครั้ง
GOAL !!! นาทีที่ 71 ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน มาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะที่ บราโว่ ออกบอลสั้นพลาดไปโดน ริชาร์ลิซอน ดักบอลได้ ก่อนบอลจะชุลมุนชุลเกและไปเข้าทาง ธีโอ วัลค็อตต ได้กึ่งยิงกึ่งผ่านลอดขา เมนดี้ ไปถึง ริชาร์ลิซอน ชาร์จเข้าประตูไป
นาทีที่ 73 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ ครอสบอลมาเสาสองให้ กาเบรียล เชซุส ขึ้นโขกแต่บอลยังไม่ผ่านมือนายด่านทีมเยือน
นาทีที่ 78 กาเบรียล เชซุส ยังไม่ได้แฮตทริก หลังจากมีจังหวะกดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลพุ่งไปชนเสาอย่างจัง ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
FULL-TIME | 2020 starts with a W thanks to a fine brace from @gabrieljesus33! 🙌
💙 2-1 🔵 #MCIEVE #ManCity pic.twitter.com/kFml5zv8b5
— Manchester City (@ManCity) January 1, 2020
สิ้นเสียงนกหวีดยาว เป็นเจ้าบ้าน แมนซิตี้ เก็บสามคะแนนเหนือ เอฟเวอร์ตัน ไปด้วยสกอร์ 2-1 เก็บแต้มเพิ่มเป็น 44 คะแนน อยู่อันดับ 3 ตามเดิม
ไฮไลท์ แมนซิตี้ 2-1 เอฟเวอร์ตัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนซิตี้ (3-4-2-1) : เคลาดิโอ บราโว่ – โรดรี้, แฟร์นันดินโญ่, เอริค การ์เซีย – ชูเอา กานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – ริยาด มาห์เรซ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.90+3), ฟิล โฟเด้น (ดาบิด ซิลบา น.83) – กาเบรียล เชซุส
เอฟเวอร์ตัน (3-5-2) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เชมัส โคลแมน (ธีโอ วัลค็อตต์ น.59), เยร์รี่ มิน่า, เมสัน โฮลเกต, – ฌิบริล ซิดิเบ้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน (มอยเซ่ คีน น.66), ทอม เดวิส, ฟาเบียน เดลฟ์, ลูก้าส์ ดีญ – โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน, ริชาร์ลิซอน
