พรีเมียร์ลีก

หงส์แดง แรงไม่หยุด ! ไฮไลท์ เชลซี เปิดบ้านพ่าย ลิเวอร์พูล 1-2, ชนะรวด 6 เกมติด

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นัดที่หก)
วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. 62
ผล: เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล (HT:0-2, FT:1-2)

การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 6 คู่ระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง

เจ้าบ้าน เชลซี ภายใต้การนำทัพของ แฟรงก์ แลมพาร์ด เกมนี้มาในระบบ 4-3-3 แทมมี่ อบราฮัม, เมสัน เมาท์ และ วิลเลี่ยน ยืนเป็น 3 ผสานแนวรุก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ สลัดเดี้ยงคืนตัวจริงแผงมิดฟิดล์ในเกมนี้

ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ปรับทัพเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมกลางสัปดาห์ เลือกส่ง จอร์จินิโญ่ ไวจ์นัลดุม ลงเป็นแผงมิดฟิดล์ร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ส่วนแดนหน้ายังคงเป็น SMF ตามเดิม

เริ่มเกมมานาทีที่ 9 โควาซิซ แย่งบอลได้จากกลางสนามพาลุยขึ้นมาเองไหลต่อให้ เมสัน เมาท์ ตบเข้ากลางให้ แทมมี่ อบราฮัม เกือบได้จิ้มแต่ ฟาน ไดจ์ค บังเอาไว้ได้

GOAL !!! นาที 15 ลิเวอร์พูล มาได้ลูกฟรีคิก จากจังหวะที่ คริสเตียนเซ่น เข้าปะทะหนักใส่ ซาดิโอ มาเน่ และเป็น โม ซาลาห์ เขี่ยบอลสั้นให้ เทรนท์ อาโนลด์ ยิงยัดเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้น เอเมอร์สัน แบ็คซ้ายของ เชลซี ฝืนอาการบาดเจ็บจากสภาพร่างกายไม่ไหว แลมพาร์ด ต้องเปลี่ยน มาร์กอส อลอนโซ่ ลงไปเล่นแทน

นาที 24 เชลซี ได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ แทมมี่ อบราฮัม ดวลเดี่ยว ๆ กับ อาเดรียน แต่ยิงไปตรงตัว อาเดรียน อย่างน่าเสียดาย

VAR NO GOAL นาที 26 หงส์แดง เคลียร์ไม่ขาดพาเสียประตูต้องชม วิลเลี่ยน ที่ทำชิ่งได้สวยเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนปาดเข้ากลาง แทมมี่ ยิงไปติดเซฟของ อาเดรียน ก่อนบอลมาเข้าทาง อัซปิลิกวยต้า ตามมาซ้ำเข้าไป ทว่ากรรมการขอดู VAR ก่อนกลับคำตัดสินว่า เม้าท์ ล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะแรกนานแล้ว

GOAL !!! นาที 30 ลิเวอร์พูล มาบวกเพิ่มเป็น 2-0 จากลูกฟริคิกด้านช้างกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เทรนท์ อาโนลด์ เล่นสั้นให้ โรเบิร์ตสัน ครอสเข้าไปหน้าปากประตู โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ เทคตัวขึ้นโขกโล่ง ๆ ไม่เหลือ

นาที 42 เชลซี ต้องมาเสียผู้เล่นเพิ่มอีก 1 ราย เมื่อ อังเดรส คริสเตียนเซ่น ปะทะกันเองกับ โทโมรี่ ทีมแพทย์ประเมิณอาการลงความเห็นว่าเล่นต่อไม่ไหวส่ง เคิร์ต ซูม่า ลงสนามไปเล่นแทน จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ เชลซี 2-0

เริ่มครึ่งหลังมาแค่นาทีเศษ ๆ ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นทันทีจากจังหวะลูกเตะมุมไม่มีอะไรบอลหลุดไปถึง ฟาบินโญ่ เปิดย้ำเข้าไปอีกรอบ ฟิร์มิโน่ ยืนโล่ง ๆ ได้แปบอลลงพื้นเน้น ๆ แต่ เกปา ไวพอพุ่งปัดออกหลังไปได้

GOAL !!! นาที 71 เชลซี มาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 สำเร็จ จากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พลิกหนี ฟาบินโญ่ ก่อนลุยไปยิงเองดื้อ ๆ บอลพุ่งเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงาม

นาที 80 เชลซี ได้ลุ้นประตูตีเสมอจากจังหวะเปิดฟรีคิกของ เมสัน เมาท์ ไปเสาสองถึง มาร์กอส อลอนโซ่ โถมตัวโขกเต็ม ๆ หัวกดลงพื้นแต่ อาเดรียน โชว์ซูเปอร์เซฟ ซึ่งทางผู้ตัดสินชี้ว่าเป็นลูกล้ำหน้าไปแล้วด้วย

นาที 88 เชลซี ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะ มาร์กอส อลนโซ่ ครอสบอลไปลุ้นในเขตโทษ บาตชัวยี่ เทคตัวโขกโล่ง ๆ เช็ดไปเสาสองแต่หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 89 โอกาสทองของ เชลซี ต่อเนื่อง มาร์กอส อลอนโซ่ แทงทะลุให้ เมสัน เมาท์ ได้หลุดไปยิงตามน้ำแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เชลซี 1-2 เก็บเพิ่ม 3 คะแนนเป็น 18 คะแนนเต็ม และเป็นชัยชนะนัดที่ 6 ติดต่อกันในลีกรั้งจ่าฝูงต่อเนื่อง ทางฝั่ง เชลซี หยุดอยู่ที่ 8 คะแนนและยังไม่สามารถเก็บชัยชนะในบ้านได้เลยในฤดูกาลนี้

ไฮไลท์เต็มเกม เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล

https://www.youtube.com/watch?v=1QwmdaDTPjU


รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม

เชลซี : เกปา, อัซปิลิกวยต้า, คริสเตนเซน, โทโมรี, เอเมอร์สัน, ก็องเต้, จอร์จินโญ, โควาชิช, วิลเลียน, เมานท์, อับราฮัม

ตัวสำรอง : กาบาเยโร, ซูมา, อลอนโซ, บาร์คลีย์, เปโดร, พูลิซิค, บาทชัวยี

ลิเวอร์พูล : อาเดรียน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดค์, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, ไวนัลดุม,​ เฮนเดอร์สัน, มาเน, ซาลาห์, ฟิร์มิโน

ตัวสำรอง : เคลเลเฮอร์,​ มิลเนอร์, โกเมซ, อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน, ลัลลานา, ชากิรี, บริวสเตอร์


ภาพจาก: Chelsea และ Liverpool

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button