สรุปคดีบิลลี่: ตอนนี้เรารู้อะไรแล้วบ้าง

Aindravudhเผยแพร่: 05 ก.ย. 2562 17:00 น.| อัปเดต: 05 ก.ย. 2562 17:06 น.

107 1 minute read

สรุปไทม์ไลน์คดีบิลลี่: ตอนนี้เรารู้อะไรแล้วบ้าง

บิลลี่ : 1.บิลลี่ เป็นหลาน “ปู่คออี้” ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวชาวกะเหรี่ยงแห่งใจแผ่นดิน มีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินในเขตอุทยาน

2. ปี 2554 บิลลี่ หรือนาย พอละจี รักจงเจริญ เป็นผู้นำช่วยชาวบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน ที่โดนเจาหน้าที่เข้ารื้อทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สิน เตรียมสู้ฟ้องคดี

บิลลี่กับปู่คออี้ ภาพจาก : เฟซบุ๊ก รักจง เจริญ

วันที่บิลลี่หายตัว

3. วันที่ 17 เม.ย. 2557 บิลลี่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ทราบต่อมาว่าถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจานควบคุมตัวไว้ เนื่องจากนำน้ำผึ้งออกจากเขตอุทยานโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้ปล่อยตัวบิลลี่แล้ว ต่อมาจากการสอบสวนพยาน 3 ปากประกอบด้วย นายเกษม ลือฤทธิ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 6 (กจ.6) ด่านเขามะเร็ว(ในขณะนั้น) และนักศึกษาฝึกงาน 2 คน ยืนยันว่าเห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัว

5. วันที่ 24 เม.ย.2557 ภรรยาของบิลลี่ นางมือนอ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 กรณีบิลลี่ถูกควบคุมตัวมิชอบด้วยกฎหมาย

6. วันที่ 2 ก.ย.2557 ศาลฏีกายกคำร้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ

7. ระหว่าง 5 ปีนี้ ภรรยาของบิลลี่ที่เดินทางไปยื่นหนังสือต่อองค์กรต่างๆ มากกว่า 10 ครั้ง ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงองค์กรนานาชาติ

8. วันที่ 28 มิ.ย.2561 ดีเอสไอได้รับคดีบิลลี่หายตัวไปเป็นคดีพิเศษ

9. ปลายเดือน มิ.ย.2561 ดีเอสไอเริ่มสืบสวนอย่างจริงจัง

10. ช่วงเดือน พ.ค.2562 ดีเอสไอพบหลักฐานสำคัญในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นกระดูกมนุษย์ เหล็กเส้น ถังน้ำมัน 200 ลิตร และเหล็กเส้น ใกล้สะพานแขวนเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

วันที่คดีบิลลี่คืบหน้า

11. วันที่ 3 ก.ย. ดีเอสไอแถลงยืนยันกระดูกที่พบเป็นกระดูของบิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ รายละเอียดดังนี้

DSI พบถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่ภายในมีกระดูกมนุษย์ที่ถูกเผา
นำกระดูกที่พบไปตรวจ พบเป็นกะโกลศีรษะของมนุษย์ มีรอยไหม้น้ำตาล รอยหดแตก น่าจะเกิดจากการถูกเผาที่ความร้อนประมาณ 200-300 องศาเซลเซียส
เมื่อนำไปตรวจสานพันธุกรรมพบว่า ตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายพอละจี รักจงเจริญหรือบิลลี่
คาดว่ากระดูกดังกล่าวเป็นของบิลลี่ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด อาจเป็นการเผาเพื่ออำพรางศพ
นอกจากนี้ยังพบเหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน ได้ส่งศูนย์พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจทำการตรวจพิสูจน์ หาร่องรอยการผ่านความร้อนและการผุกร่อน
พบกระดูกอีก 20 ชิ้นอยู่ใต้น้ำบริเวณสะพานแวน เชื่อนแก่งกระจาน
พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ เข้าข่ายลักษณะการฆาตกรรมโดยทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance: CD)

12. หลังการแถลงของดีเอสไอ เรื่องคืบหน้าการเสียชีวิตของบิลลี่ น.ส.พิณนภา (มือนอ) ภรรยาของนายบิลลี่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

#ความรู้สึกจากการดูDSIออกข่าววันนี้
นาย พอละจี (บิลลี่) รักจงเจริญ ชอบเลขสามกับเลข7 พอแยกบ้านเลขที่ออกจากทะเบียนบ้านแม่ ได้บ้านเลขที่37 ทำประกันชีวิตในวันที่17ก.ย.56 ลงสมัครเป็นสมาขิก อบต.ได้เบอร์ 3 ถูกบังคับให้หายจากครอบครัวไป ที่17เม.ย.57 ผ่านไป5ปี และวันนี้วันที่3ก.ย.62เป็นวันที่สังคมโลกภายนอกได้รับรู้ว่า นายพอละจี บิลลี่ รักจงเจริญ อยู่ไหน โห? เลขอะไรช่างลงตัวขนาดนี้นะ แต่สำหรับเราเป็นวันที่จุกอกหายใจไม่สะดวก จริงๆแล้วไม่อยากจะคุยกับใครใดๆทั้งสิ้นเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับความรู้สึกต่างๆนานาเกินกว่าที่จะบรรยายจนลงกะเพาะแน่นเต็มจุกอกไปหมด แต่กลับกันอยากรู้ว่าคนกระบวนการที่กระทำกับบิลลี่นั้น คือบิลลี่ไปทำอะไรให้เจ็บปวดอย่างไรถึงขั้นเอาชีวิตบิลลี่ไปได้ลงคอ จิตใจคนที่ทำกระบวนการเอาชีวิตบิลลี่ไปนั้นสร้างด้วยอะไร ยังเป็นมนุษย์กันอีกอยู่หรือเปล่า คือตอนนี้รู้แล้วว่าบิลลี่เสียชีวิตอยู่ตรงนั้นแล้ว #แต่อยากรู้ว่าบิลลี่ทำผิดอันใดมา ถึงต้องเอาชีวิตบิลลี่ไป #ขอคำชี้แจงด้วยค่ะ#ขอบคุณหน่วยงานดีเอสไอที่ช่วยติดตามคดีบิลลี่ให้ได้รู้ว่า #บิลลี่อยู่ในน้ำเขื่อนแก่งกระจาน

13. อดีตคณกรรมการสิทธิมนุษยชน 2 ท่าน เขียนถึงกรณีของบิลลี่ไว้ อ่านรายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้

14. วันที่ 4 กันยายน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการระบุว่าใครเป็นคนฆ่าบิลลี่ต้องรอการสืบสวนให้ชัดเจนอีกครั้ง ยังไม่ฟันธงว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่

วันที่ทุกภาคส่วนของสังคมเริ่มสนใจเรื่องของบิลลี่

15. พยานทั้ง 3 ปากที่เคยให้การก่อนหน้าว่าเห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัวออกมา กลับคำให้การว่าไม่เคยเห็นบิลลี่ตอนถูกปล่อยตัว

16. นายปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟสบุ๊ก Amnesty International Thailand ให้ทางการนำผู้ลงมือฆาตกรรมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

จากคำแถลงของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ยืนยันว่า พอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยบิลลี่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 หลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า แอมเนสตี้ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของบิลลี่ต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และแอมเนสตี้จะยืนหยัดเคียงข้างครอบครัวจนกว่าทางการไทยจะสามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ
“นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ทางการไทยสามารถนำความคืบหน้าของคดีอาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้มาสู่ครอบครัวของผู้เสียหายและสาธารณชนได้”
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสืบสวนสอบสวนให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงว่าผู้กระทำและผู้ส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมครั้งนี้คือใคร และต้องนำบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามมาตรฐานสากล”

17. เครือข่าวกะเหรี่ยงและชาวเล ร่วมกับภาคีเครือข่ายอีก 99 องค์กร เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่านายบิลลี่มารับโทษโดยเร็ว รวมถึงเร่งรัดความคืบหน้ากรณีหาผู้ทำผิดวางเพลิงชุมชนบ้านใจแผ่นดิน-ลางกลอยบน นอกจากนี้ยังต้องชดเชยเยียวยาต่อครอบครัวนายบิลลี่อย่างเหมาะสม

18. บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ ระบุว่า การฆาตกรรมบิลลี่ มีขั้นตอนซับซ้อน ขบคิดมาเป็นอย่างดีในพฤติกรรมที่เลวทราม เชิดหน้าและลอยนวล

19. พรรคอนาคตใหม่รับหนังสือของเครือข่ายเพื่อนำไปผลักดันเข้าหารือในสภา

20. ฝ่ายค้านเตรียมยื่นกระทู้ถามสดกรณีการเสียชีวิตของนายบิลลี่ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

อ่านข่าวก่อนหน้า