สิงหาคมเดือนเดียว ฆ่าตัวตายหนีปัญหาเศรษฐกิจแล้ว 5 ราย
ฆ่าตัวตาย เศรษฐกิจ – เป็นเรื่องน่าเศร้าสะท้อนใจแก่คนไทยเป็นอย่างมาก กับข่าวฆ่าตัวตายแทบจะรายวัน เมื่อพินิจลงไปในรายละเอียดของข่าว จะพบจุดร่วมบางอย่างที่เหมือนกันคือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บุคคลเหล่านั้นคิดสั้นคือปัญหาด้านอาชีพ เศรษฐกิจ อย่างเดือนสิงหาคมนี้ เพียงแค่ช่วงสัปดาห์ที่แล้วถึงสัปดาห์นี้ มีรายงานข่าวการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายแล้วถึง 5 เคส 7 ราย
เคสแรก วันที่ 11 ส.ค. ชายเจ้าของร้านอาหารเวียดนามวัย 60 ปี ฆ่าตัวตายด้วยการดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำ ในอพาร์ทเมนต์ย่านเมืองทอง พร้อมเขียนจดหมายลา เครียดจากปัญหากิจการร้านอาหารขาดทุน
เคสที่ 2 วันที่ 13 สิงหาคม ครอบครัว 3 พ่อแม่และลูกวัย 4 ขวบ ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการรมควันฆ่าตัวตายในรถ ที่จังหวัดปทุมธานี ในรถมีจดหมายลาโลก เขียนว่า “ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้นะคะ หมดหนทางแล้วจริงๆ ค่ะ ที่แบกอยู่ตอนนี้มันหนักเกินไปมากๆ” ญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่า ผู้เสียชีวิตเครียดจากการประสบปัญหาทางธุรกิจเต็นท์รถและร้านชาบู แต่ไปไม่รอด
เคสที่ 3 วันที่ 14 สิงหาคม หนุ่มนครราชสีมา ขายข้าวมันไก่วัย 27 ปี เครียดจากการโดนมารดาต่อว่าที่นำบ้านไปจำนอง ตัดสินใจฆ่าตัวตายในบ้านด้วยการรมควัน
เคสที่ 4 วันที่ 15 สิงหาคม เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถใช้ปืน .357 จ่อขมับยิงตัวเองเสียชีวิตคาที่ จ.พัทลุง ตำรวจคาด ผู้ตายเครียดจากการที่ลูกค้านำรถยนต์เข้ามารับบริการน้อย จนเข้าสู่สภาวะขาดทุน ประกอบกับปัญหาสุขภาพ
เคสที่ 5 สองสามีภรรยาชาวเพชรบูรณ์ เปิดร้านขายของชำที่จังหวัดชลบุรี ประสบปัญหาชีวิตตัดสินใจผูกคอตาย คาดว่าเครียดจากปัญหาค้ำประกันหนี้นอกระบบให้เพื่อน ในจดหมายฉบับสุดท้ายถึงลูกระบุว่า “แม่เหนื่อย แม่ล้ากับชีวิต”
