จากกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายใส่ชุดดำปกปิดหน้าตาลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยจับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมัดไว้ก่อนจะก่อเหตุเมื่อประมาณเที่ยงคืนวานนี้ (4 ส.ค.) ล่าสุดตำรวจเผยวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า จากการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายแต่งกายเหมือนกับที่อื่นๆ ในพื้นที่
โดยก่อนหน้านี้มีเหตุโจมตีจุดตรวจปะกาฮารัง เมื่อวันที่ 23 ก.ค. และในเวลาใกล้เคียงกันกับการระเบิดตู้เอทีเอ็ม ก็มีการใช้ระเบิดที่อื่นๆ รวม 3 จุด และในบางจุดมีการใช้อาวุธปืน และเผายาง อีกทั้งบางจุดยังใช้ระเบิดถึง 2 ลูก และในทุกๆ จุด คนร้ายแต่งตัวเหมือนกัน และทำงานกันเป็นทีม
ตำรวจเชื่อว่า คนสั่งการเป็นคนเดียวกันและมีเป้าหมายเป็นตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามฯ จากการสืบสวน พอจะเริ่มทราบตัวแล้วบ้าง แต่ขอให้ผลตรวจสอบจากพยานหลักฐานออกมาก่อน โดยทางตำรวจได้นำพยานในที่เกิดเหตุมาสอบเพิ่มเติม และเชื่อว่าจะสามารถยืนยันตัวผู้ก่อเหตุได้แน่นอน ซึ่งจะออกหมายจับต่อไป
ส่วนเรื่องเงินที่หายไปจากตู้นั้น น่าจะเป็นผลพลอยได้ แต่ก็ยังไม่ทราบจำนวน ต้องรอทางธนาคารตรวจสอบทางระบบอีกครั้ง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับการแจ้งเตือนว่าจะมีการก่อเหตุ ซึ่งทุกหน่วยได้วางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด แต่คนร้ายเลือกก่อเหตุยามวิกาล เป็นเวลาที่ทุกคนพักผ่อนกันแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ระเบิดนั้นบรรจุถังแก๊สหนัก 15 กก. จุดสัญญาณแบบลากสายทั้ง 3 จุด และมีลักษณะเหมือนกันหมด ส่วนจะเชื่อมโยงกับที่อื่นๆ หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ โดยผู้ว่าฯระบุว่า
“ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำงานให้เสร็จก่อน อย่าเพิ่งสรุปอะไรง่ายๆ เราผ่านอะไรมามากมายแล้ว ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ว่าคนร้ายมีเป้าหมายเพื่ออะไร เพราะที่หนึ่งเงินหาย แต่อีก 2 ที่เงินไม่ได้หายไป ต้องรอเจ้าหน้าที่สรุปอีกครั้ง
ที่มา ข่าวสด
