ข่าวดี “กองทัพภาค 2” ประกาศสถานการณ์สงบ ประชาชนกลับที่พัก-ภูมิลำเนาได้ปกติ
กองทัพภาค 2 แจ้งประชาชนสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา สงบ คลี่คลายแล้วตั้งแต่ประกาศหยุดยิงวานนี้ ประกาศให้พี่น้องกลับที่พักภูมิลำเนาปกติ
จากผลจากการประชุม GBC เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะอนุญาตให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบกลับไปยังบ้าน และประกอบอาชีพตามปกติในพื้นที่ภายในฝั่งของตนเองโดยเร็วที่สุด โดยปราศจากการขัดขวาง ปลอดภัย และมีศักดิ์ศรี ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ ทั้งสองฝ่ายได้วางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ไม่มีการยิง ไม่ปรากฎการปฏิบัติที่เป็นการยั่วยุ สถานการณ์มีทิศทางที่ดีขึ้น
ดังนั้นประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาให้ปฏิบัติตามแผนที่จังหวัดกำหนด และหากพบวัตถุระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งผู้นำชุมชน, ผู้นำท้องที่, ผู้นำท้องถิ่น, เจ้าพนักงานตำรวจ, หน่วยทหารในพื้นที่ หรือแจ้งสายด่วนความมั่นคง กอ.รมน. 1374 ได้ทันที
ด้าน กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยเนื้อหาวันนี้ (28 ธ.ค.) จากประกาศฉบับล่าสุด โดยแจ้งไปยังประชาชนถึง “ประกาศสถานการณ์” จากเหตุการณ์การสู้รบที่ผ่านมานั้น ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว โดยกองทัพแจ้งพี่น้องประชาชนสามารถเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา และที่พักอาศัยได้ตามปกติโดยขอให้ใช้ความระมัดระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังคงปฏิบัติภารกิจด้วยความมุ่งมั่นและเต็มกำลัง ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงดูแลรักษาความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง
ขณะเดียวกัน “ขอความร่วมมือประชาชน” ห้ามเก็บ ครอบครอง หรือเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางทหาร ยุทธภัณฑ์ วัตถุต้องสงสัย หรือ โดรน ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนโดยเด็ดขาด
ที่สำคัญแม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาแล้ว แต่ขอให้พี่น้องประชาชนยังคงเฝ้าระวังและเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น วัตถุบินไม่ทราบฝ่าย บุคคลต้องสงสัย หรือความเคลื่อนไหวที่ผิดสังเกตในพื้นที่ โปรดแจ้งสายด่วน 1374 ทันที ข้อมูลของท่านคือฐานข้อมูลสำคัญในการป้องกันและรักษาความสงบสุขของชาติ.




อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ขอความร่วมมือประชาชน ร่วมเฝ้าระวังแม้มีข้อตกลงหยุดยิงไทย–กัมพูชาแล้ว
- Ceasefire 72 ชั่วโมง คืออะไร ? หลังไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิง
- สรุปให้ ไทย-กัมพูชา หยุดยิงเริ่มเที่ยงนี้ จับตา 72 ชม. เงื่อนไขมีอะไรบ้าง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





