
ร้านค้าเฮ รัฐเคาะวันจ่าย “คนละครึ่งพลัส” รับเงินก้อน 2,000 บาท เข้ากระเป๋า 25 ธ.ค. นี้ ของขวัญคริสต์มาส
รัฐบาลประกาศข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการและใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เตรียมรับสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็ม 2 ต่อ ทั้งเงินสมทบทุนหมุนเวียนและโอกาสในการพัฒนาความรู้ ดังนี้
สิทธิประโยชน์ 2 ต่อที่ร้านค้าจะได้รับ
รับเงินสมทบสูงสุด 2,000 บาท รัฐช่วยจ่ายเงินสมทบให้ 20% ของยอดขาย (คำนวณจากฐานยอดขายในช่วงโครงการ) สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อร้านค้า เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อัปเกรดความรู้ฟรี ได้สิทธิเข้าคอร์สเรียนรู้วิชาการทำธุรกิจยุคใหม่ เพื่อปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลให้ร้านเติบโตยั่งยืน
กางปฏิทิน ไทม์ไลน์เช็กสิทธิ์และวันเงินเข้า ร้านค้าที่ผ่านเกณฑ์เตรียมตัวให้พร้อม
วันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568
ประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการ
ร้านค้าสามารถตรวจสอบสถานะได้ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
รอรับการแจ้งเตือนผ่าน SMS
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม 2568
เงินเข้าบัญชีทันที โดยรัฐจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ร้านค้าผูกไว้กับแอปฯ ถุงเงินโดยอัตโนมัติ
ย้ำอีกครั้ง: หากท่านตรวจสอบแล้วว่าได้รับสิทธิ์ ไม่ต้องกดรับสิทธิ์ซ้ำ ระบบจะโอนเงินเข้าบัญชีให้เองตามวันที่กำหนดครับ

คนละครึ่งพลัส เฟส 2 คนทั่วไป ยังมีไหม
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายบวรศักดิ์ อุวรรณโน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วว่ารัฐบาลรักษาการไม่สามารถดำเนินการโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้
ส่วนกรณีที่นางมนพร เจริญศรี อดีต รมช.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า โครงการเงิน 10,000 บาท ถูกตีตก เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยเปลี่ยนงบไปใช้คนละครึ่ง นั้น นายสิริพงศ์ ระบุว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งคาดว่าเป็นการกล่าวที่ไม่รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่นโยบายของตนเอง ที่ได้หาเสียงไว้
พร้อมระบุว่า หากกลับไปดูมติคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 20 พ.ค. นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นแถลงข่าวด้วยตนเองว่า โครงการเงิน 10,000 บาทต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ โครงการเงิน 10,000 บาทมีความจำเป็นน้อยกว่าการไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
และหากจำได้ขณะนั้นใช้ระยะเวลาแปลงโครงการ 1.5 แสนล้าน ในเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์ ซึ่งทุกอย่างเร่งรีบ เพราะให้เหตุผลว่าโครงการเงิน 10,000 บาทมีความจำเป็นน้อยกว่าโครงการเหล่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่โครงการเงิน 10,000 บาทเฟสนั้นไม่สามารถดำเนินการต่อได้ และเมื่อรัฐบาลนี้ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่มีงบประมาณที่ถูกจัดสรรไว้ในโครงการเงิน 10,000 บาท
ขณะที่โครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นการนำงบกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ โดยไม่ได้ตระเตรียมว่าจะนำงบประมาณมาจากแหล่งใด และหากเทียบกับเม็ดเงินมันก็กันมาก เพราะคนละครึ่ง พลัส ใช้เงินกว่า 40,000 ล้านบาท แต่เงิน 10,000 ในแต่ละเฟสใช้เงินกว่า 100,000 ล้านบาท
“ของเรา (รัฐบาลอนุทิน) กระตุ้นสั้นได้ผลยาว กระจายตัว แต่ที่ฟังชาวบ้านพูดมาโครงการที่แล้ว กระตุ้นสั้น แต่ซึมยาวซึม” นายสิริพงศ์ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนละครึ่งพลัส แจกเงินเพิ่ม 2000 บาท เช็กเงื่อนไข ใครได้บ้าง
- คนละครึ่งพลัส วิธีโอนเงินออกจากแอปฯ เป๋าตัง หลังโครงการไม่ได้ไปต่อ
- ‘อนุทิน’ หลั่งน้ำตา นำ ‘ภูมิใจไทย’ สู้ศึกเลือกตั้ง ชูนโยบาย ‘ทหารอาสา-คนละครึ่งพลัส’ มั่นใจนั่งนายกฯ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:



